:: 7 อาณาจักรใหญ่ในยุคที่นบีมุฮัมหมัดถูกส่งมา ::
ก่อนที่นบีมุฮัมหมัดศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัม จะถูกส่งมาสู่โลก พระผู้เป็นเจ้าทรงมองเห็นสภาพของมนุษย์ที่เต็มไปด้วยความเสื่อมทราม ดังที่ปรากฏในหะดีษกุดสีย์ ซึ่งพระองค์ได้ตรัสไว้ว่า
…وَإِنِّي خَلَقْتُ عِبَادِي حُنَفَاءَ كُلَّهُمْ، وَإِنَّهُمْ أَتَتْهُمْ الشَّيَاطِينُ فَاجْتَالَتْهُمْ عَنْ دِينِهِمْ، وَحَرَّمَتْ عَلَيْهِمْ مَا أَحْلَلْتُ لَهُمْ، وَأَمَرَتْهُمْ أَنْ يُشْرِكُوا بِي مَا لَمْ أُنْزِلْ بِهِ سُلْطَانًا. وَإِنَّ اللَّهَ نَظَرَ إِلَى أَهْلِ الْأَرْضِ فَمَقَتَهُمْ عَرَبَهُمْ وَعَجَمَهُمْ إِلَّا بَقَايَا مِنْ أَهْلِ الْكِتَابِ
“…แท้จริงข้าได้สร้างปวงบ่าวทั้งหลายของข้าให้อยู่ในสภาพที่เที่ยงตรงตามธรรมชาติ (หุนะฟาอ์) แต่ชัยตานได้มาหาพวกเขา แล้วทำให้พวกเขาหันเหจากศาสนาของพวกเขา ห้ามสิ่งที่ข้าอนุมัติแก่พวกเขา และสั่งให้พวกเขาตั้งภาคีต่อข้าด้วยสิ่งที่เราไม่เคยประทานหลักฐานใด ๆ ลงมา และแท้จริงอัลลอฮฺได้ทรงมองดูผู้คนบนโลก แล้วทรงกริ้วพวกเขา ทั้งชาวอาหรับและต่างชาติ ยกเว้นกลุ่มผู้เหลือรอดจากอะฮลุลกิตาบ (ผู้ได้รับคัมภีร์)” (บันทึกโดยมุสลิม หะดีษเลขที่ 2865 และอะหมัด หะดีษเลขที่ 17165)
ในตอนนั้นโลกถูกปกครองโดย 7 อาณาจักรใหญ่ ซึ่งแต่ละอาณาจักรล้วนมีเรื่องราวที่น่าสนใจ ดังนี้
1. จักรวรรดิไบแซนไทน์ – โรมันตะวันออก (ยุโรป)
ในปี ค.ศ. 610 จักรวรรดิไบแซนไทน์ภายใต้การปกครองของจักรพรรดิเฮราคลิอุส (ค.ศ.610-641) เป็นมหาอำนาจคริสเตียน นิกายออร์โธดอกซ์ ที่มีประชากรอยู่ราว 15-20 ล้านคน อาณาจักรนี้ครอบคลุมพื้นที่อนาโตเลีย ซีเรีย อียิปต์ และบอลข่าน มีความเจริญก้าวหน้าด้านการทหาร สถาปัตยกรรม และการบริหาร แต่กลับประสบปัญหาความเสื่อมทางศีลธรรมจากการทุจริต การแสวงหาผลประโยชน์ของชนชั้นสูง และความแตกแยกทางเทววิทยา
เมื่อนบีมุฮัมหมัด ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัม ส่งจดหมายเชิญชวนไปยังเฮราคลิอุส นั่นคือจุดเริ่มต้นของการเผชิญหน้าระหว่างวิวรณ์ของพระผู้เป็นเจ้ากับโลกของจักรวรรดิ
2. จักรวรรดิเปอร์เซียแซสซาเนียน – เอเชียตะวันตก (เปอร์เซีย)
ปกครองโดยจอมกษัตริย์กิสรอ (โคสโรว์ที่ 2) ในช่วง ค.ศ.590-628 จักรวรรดินี้มีอำนาจเบ็ดเสร็จเหนือประชากรราว 20-25 ล้านคน ในอิหร่าน อิรัก และเอเชียกลาง แม้จะเป็นที่รู้จักในเรื่องความโอ่อ่าของพระราชวังและระบบราชการที่ซับซ้อน แต่ก็ประสบปัญหาจากการบูชาไฟ ระบบชนชั้นวรรณะที่กดขี่ และการใช้จ่ายงบประมาณอย่างฟุ่มเฟือย เมื่อนบีมุฮัมหมัด ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัม ได้ส่งจดหมายเชิญชวน จอมกษัตริย์กิสรอก็ได้ฉีกจดหมายทิ้ง สะท้อนถึงความโอหังของจักรวรรดิที่มีชีวิตอยู่ด้วยการอธรรมและความโหดร้าย
3. อาณาจักรอักซุม – แอฟริกาตะวันออก (หะบะชะฮฺ)
อาณาจักรอักซุมปกครองโดยเนกุส อัศหะมะฮฺ บินอับญัร (หรือ อันนะญาซีย์) กษัตริย์คริสเตียนผู้เที่ยงธรรม ซึ่งต่อมาได้เข้ารับอิสลาม ปกครองประชากรประมาณ 1-2 ล้านคน ครอบครองเส้นทางเดินเรือในทะเลแดงและพื้นที่เอธิโอเปีย สิ่งที่ทำให้อักซุมแตกต่างจากมหาอำนาจอื่น ๆ คือ แม้จะเผชิญกับความขัดแย้งภายในและความกดดันทางเศรษฐกิจ แต่กษัตริย์อันนะญาซีย์ปฏิเสธความอยุติธรรมต่อประชาชน และยอมรับการอพยพของชาวมุสลิมที่ถูกกดขี่ข่มเหงจากชาวมักกะฮฺ อักซุมจึงกลายเป็นเรื่องราวที่โดดเด่นด้วยความยุติธรรมและการยอมรับความแตกต่างระหว่างศาสนา ซึ่งแตกต่างจากมหาอำนาจอื่น ๆ ในยุคนั้น
4. ราชวงศ์ถัง – เอเชียตะวันออก (จีน)
ราชวงศ์ถังเพิ่งก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 618 โดยจักรพรรดิถังเกาจู่ (หลี่หยวน) ครอบครองพื้นที่ที่มีประชากรราว 50 ล้านคน จีนในยุคนั้นคือศูนย์กลางความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี แต่การล่มสลายของราชวงศ์สุยก่อนหน้านั้นได้ทิ้งมรดกของการทุจริต ความขัดแย้งในหมู่ชนชั้นสูง และความอดอยากของประชาชนเอาไว้
หลังจากนบีมุฮัมหมัดเสียชีวิต นบีแห่งอิสลามยังไม่เป็นที่รู้จักในจีน แต่เมล็ดพันธุ์ของการปฏิสัมพันธ์ได้ปรากฏผลชัดขึ้นในยุคคุละฟาอ์อัรรอชิดูนและราชวงศ์อุมัยยะฮฺ
5. อาณาจักรวิซิกอท – ยุโรปตะวันตก (ไอบีเรีย)
อาณาจักรวิซิกอทปกครองโดยกษัตริย์ซีเซบุต (Sisebut) ระหว่างปี ค.ศ.612-621 ครอบครองพื้นที่ซึ่งปัจจุบันคือสเปนและโปรตุเกส มีประชากรประมาณ 4-5 ล้านคน ศาสนาที่ไม่ถูกต้องกลายเป็นเครื่องมือครอบงำทางการเมือง และกษัตริย์วิซิกอทขึ้นชื่อในการบีบบังคับให้เปลี่ยนนบี โดยเฉพาะกับชาวยิว สังคมของพวกเขาประสบภาวะชะงักงันทางปัญญา มีระบบศักดินาที่โหดร้าย สะท้อนถึงยุคแห่งความมืดมนของยุโรปหลังโรมัน
6. อาณาจักรอัลมุนซิเราะฮฺ – อาระเบียตะวันออก (ลัคมิด)
รัฐอาหรับที่จงรักภักดีต่อเปอร์เซียในพื้นที่ทางใต้ของอิรัก แม้จะล่มสลายอย่างเป็นทางการในปี ค.ศ.602 แต่ยังคงมีอิทธิพลต่อภูมิภาค มีประชากรประมาณหลายแสนถึง 1 ล้านคน วัฒนธรรมบทกวี เกียรติยศของชนเผ่า และความภักดีเป็นสิ่งที่โดดเด่นของพวกเขา แต่ก็แปดเปื้อนด้วยความโง่เขลาของอาหรับโบราณ เช่น ความคลั่งไคล้ต่อชนเผ่า การดื่มเหล้า และการผิดประเวณี ภูมิภาคนี้กลายเป็นสนามแห่งการเปลี่ยนผ่านระหว่างยุคญาฮิลิยฺยะฮฺ(ยุคโง่เขลาก่อนอิสลาม) และการปรากฏขึ้นของอิสลาม
7. จักรวรรดิเกิร์กเติร์กส์ (Göktürks) – เติร์กคากานตะวันตก (เอเชียกลาง)
จักวรรดิเกิร์กเติร์ส์ หรือ อาณาจักรเติร์กคากานตะวันตก (Western Turkic Khaganate) นำโดย Tong Yabghu Qaghan (ค.ศ. 618-628) ครอบครองเอเชียกลาง มีประชากรประมาณ 5-10 ล้านคน ดำรงชีวิตแบบเร่ร่อนในทุ่งหญ้าสะเตป มีอำนาจด้วยกำลังทหารและการครอบครองเส้นทางสายไหม ระบบการเมืองของพวกเขารุนแรง มักมีการแย่งชิงอำนาจและการเชิดชูบุคคลเป็นลัทธิ สะท้อนถึงพลังอันยิ่งใหญ่ที่ไร้ทิศทางทางจิตวิญญาณ ในอนาคตพวกเขาได้กลายเป็นส่วนสำคัญของนักรบอิสลาม โดยเฉพาะในสมัยอับบาสิยฺยะฮฺ
** การเปลี่ยนแปลงที่โลกไม่เคยคิด **
โลกไม่เคยคิดเลยว่า บุรุษผู้เปลี่ยนแปลงโลกจะมาจากใจกลางคาบสมุทรอาหรับ ดิ้นรนต่อสู้ตลอด 23 ปีในชีวิต โดยมีเศาะหาบะฮฺที่ดีที่สุดอยู่เคียงข้าง ทำลายกำแพงแห่งยุคญาฮิลิยฺยะฮฺ (ความโง่เขลา) ชีวิตของนบีมุฮัมหมัดศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัม เป็นหลักฐานว่า อัลลอฮฺ พระเจ้าผู้ทรงฤทธานุภาพสามารถพลิกผันสถานการณ์ได้ตามประสงค์ของพระองค์ ท่านได้แสดงปาฏิหาริย์ทางประวัติศาสตร์ ด้วยการทำลายกำแพงแห่งความอยุติธรรมด้วยศรัทธา และทำในสิ่งที่ผู้คนคิดว่าเป็นไปไม่ได้!
——————–
หมายเหตุ : ศึกษาชีวประวัติของท่านนบีมุฮัมหมัด ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัม สาวกของท่าน และการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับอาณาจักรใหญ่เหล่านี้ ทั้งอาณาจักรอักซุม อาณาจักรอัลมุนซิเราะฮฺ โดยเฉพาะจักรวรรดิเปอร์เซีย (ราชวงศ์แซสซาเนียน) และจักรวรรดิไบแซนไทน์ ได้ในรายการ Everydeen Podcast
ลิงค์ 1 : https://youtu.be/9PMe7ixweac?si=rhGCSpfVahCv9ITr (ชีวประวัตินบีมุฮัมหมัด 70+ ชม.)
ลิงค์ 2 : https://www.youtube.com/playlist?list=PL-tye_ywgMOCRF0WsT3c929a4PbT7yxlj (ยุคคุละฟาอ์อัรรอชิดูน)