หะดีษเลขที่ 20
ท่านสัลมานได้มองไปยังตราสัญลักษณ์ที่อยู่บนหลังของท่านเราะสูลุลลอฮฺ
حَدَّثَنَا أَبُو عَمَّارٍ الْحُسَيْنُ بْنُ حُرَيْثٍ الْخُزَاعِيُّ قَالَ : حَدَّثَنَا عَلِيُّ بْنُ حُسَيْنِ بْنِ وَاقِدٍ حَدَّثَنِي أَبِي قَالَ : حَدَّثَنِي عَبْدُ اللهِ بْنُ بُرَيْدَةَ قَالَ : سَمِعْتُ أَبِي بُرَيْدَةَ يَقُولُ : جَاءَ سَلْمَانُ الْفَارِسِيُّ إِلَى رَسُولِ اللهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ حِينَ قَدِمَ الْمَدِينَةَ بِمَائِدَةٍ عَلَيْهَا رُطَبٌ، فَوَضَعَهَا بَيْنَ يَدَيْ رَسُولِ اللهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ فَقَالَ { يَا سَلْمَانُ مَا هَذَا؟ } فَقَالَ : صَدَقَةٌ عَلَيْكَ، وَعَلَى أَصْحَابِكَ، فَقَالَ { ارْفَعْهَا، فَإِنَّا لا نَأْكُلُ الصَّدَقَةَ } قَالَ : فَرَفَعَهَا، فَجَاءَ الْغَدَ بِمِثْلِهِ، فَوَضَعَهُ بَيْنَ يَدَيْ رَسُولِ اللهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ، فَقَالَ { مَا هَذَا يَا سَلْمَانُ؟ } فَقَالَ : هَدِيَّةٌ لَكَ، فَقَالَ رَسُولُ اللهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ لأَصْحَابِهِ { ابْسُطُوا } ثُمَّ نَظَرَ إِلَى الْخَاتَمِ عَلَى ظَهْرِ رَسُولِ اللهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ فَآمَنَ بِهِ، وَكَانَ لِلْيَهُودِ فَاشْتَرَاهُ رَسُولُ اللهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ بِكَذَا وَكَذَا دِرْهَمًا عَلَى أَنْ يَغْرِسَ لَهُمْ نَخْلا، فَيَعْمَلَ سَلْمَانُ فِيهِ، حَتَّى تُطْعِمَ، فَغَرَسَ رَسُولُ اللهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ النَّخلَ إِلا نَخْلَةً وَاحِدَةً غَرَسَهَا عُمَرُ، فَحَمَلَتِ النَّخْلُ مِنْ عَامِهَا، وَلَمْ تَحْمِلْ نَخْلَةٌ، فَقَالَ رَسُولُ اللهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ { مَا شَأْنُ هَذِهِ النَّخْلَةِ؟ } فَقَالَ عُمَرُ : يَا رَسُولَ اللهِ، أَنَا غَرَسْتُهَا، فَنَزَعَهَا رَسُولُ اللهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ، فَغَرَسَهَا فَحَمَلَتْ مِنْ عَامِهَا
อบูอัมมาร อัลหุสัยนฺ บินหุร็อยษฺ อัลคุซาอีย์ ได้รายงานแก่พวกเราโดยกล่าวว่า อลี บินหุสัยนฺ บินวากิด ได้รายงานแก่พวกเราโดยกล่าวว่า พ่อของฉันได้รายงานแก่ฉันโดยกล่าวว่า อับดุลลอฮฺ บินบุร็อยดะฮฺ ได้รายงานแก่ฉันโดยกล่าวว่า ฉันเคยฟังท่านอบูบุร็อยดะฮฺ กล่าวว่า : ท่านสัลมาน อัลฟาริสีย์ ได้มาหาท่านเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัม พร้อมกระจาดใส่อินทผลัมสดเมื่อท่านเราะสูลมาถึงเมืองมะดีนะฮฺ แล้วท่านสัลมานก็วางวางมันไว้ต่อหน้าท่านเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัม ท่านจึงกล่าวว่า "สัลมาน นี่อะไรหรือ?" ท่านสัลมานตอบว่า "เป็นของบริจาคให้กับท่านและเศาะหาบะฮฺของท่านครับ" ท่านเราะสูลจึงกล่าวว่า "ยกไปเถอะ เราไม่บริโภคของบริจาค" ท่านอบูบุร็อยดะฮฺเล่าต่อว่า : ท่านสัลมานจึงยกกลับไป วันรุ่งขึ้นท่านก็กลับมาอีกเหมือนเดิม (คือนำกระจาดใส่อินทผลัมมาด้วย) แล้วท่านก็วางมันไว้ต่อหน้าท่านเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลอลฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัม ท่านเราะสูลจึงถามว่า "สัลมาน นี่อะไรหรือ?" ท่านสัลมานตอบว่า "เป็นของขวัญให้ท่านครับ" ท่านเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัม จึงกล่าวกับบรรดาเศาะหาบะฮฺของท่านว่า "แบ่งกันไปเถิด" แล้วท่านสัลมานก็ได้มองไปยังตราสัญลักษณ์ที่อยู่บนหลังของท่านเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัม แล้วท่านก็ศรัทธาต่อท่านเราะสูล และท่านสัลมานนั้นเคยเป็นทาสของยิวคนหนึ่ง แล้วท่านเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัม ก็ได้ขอซื้อ (ไถ่ตัว) ท่านด้วยราคาเท่านั้นเท่านี้ดิรฮัม โดยที่ท่านจะปลูกอินทผลัมให้กับพวกเขา และท่านสัลมานจะต้องทำงานนี้จนกว่าจะออกผล ท่านเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัม ก็ได้ปลูกต้นอินทผลัม ยกเว้นต้นเดียวที่ท่านอุมัรเป็นคนปลูก แล้วอินทผลัมก็ออกผลประจำปีของมัน ยกเว้นต้นเดียวที่ไม่ยอมออกผล ท่านเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลม จึงถามว่า "เกิดอะไรขึ้นกับอินทผลัมต้นนี้?" ท่านอุมัรก็ตอบว่า "ผมเป็นคนปลูกมันเองครับ ท่านเราะสูลุลลอฮฺ" ท่านเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัม จึงถอนมันทิ้ง แล้วปลูกต้นใหม่ แล้วมันก็ออกผลประจำปีออกมา
สถานะหะดีษ : หะสัน