หะดีษเลขที่ 1354-1355
ท่านยืนยันว่าฉันคือเราะสูของอัลลอฮฺไหม?
حَدَّثَنَا عَبْدَانُ أَخْبَرَنَا عَبْدُ اللَّهِ عَنْ يُونُسَ عَنِ الزُّهْرِيِّ قَالَ : أَخْبَرَنِي سَالِمُ بْنُ عَبْدِ اللَّهِ : أَنَّ ابْنَ عُمَرَ رَضِيَ اللَّهُ عَنْهُمَا أَخْبَرَهُ : أَنَّ عُمَرَ انْطَلَقَ مَعَ النَّبِيِّ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ فِي رَهْطٍ قِبَلَ ابْنِ صَيَّادٍ، حَتَّى وَجَدُوهُ يَلْعَبُ مَعَ الصِّبْيَانِ عِنْدَ أُطُمِ بَنِي مَغَالَةَ، وَقَدْ قَارَبَ ابْنُ صَيَّادٍ الْحُلُمَ فَلَمْ يَشْعُرْ حَتَّى ضَرَبَ النَّبِيُّ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ بِيَدِهِ، ثُمَّ قَالَ لاِبْنِ صَيَّادٍ { تَشْهَدُ أَنِّي رَسُولُ اللَّهِ؟ } فَنَظَرَ إِلَيْهِ ابْنُ صَيَّادٍ فَقَالَ : أَشْهَدُ أَنَّكَ رَسُولُ الأُمِّيِّينَ، فَقَالَ ابْنُ صَيَّادٍ لِلنَّبِيِّ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ : أَتَشْهَدُ أَنِّي رَسُولُ اللَّهِ؟، فَرَفَضَهُ، وَقَالَ : آمَنْتُ بِاللَّهِ وَبِرُسُلِهِ، فَقَالَ لَهُ { مَاذَا تَرَى؟ } قَالَ ابْنُ صَيَّادٍ : يَأْتِينِي صَادِقٌ وَكَاذِبٌ، فَقَالَ النَّبِيُّ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ { خُلِّطَ عَلَيْكَ الأَمْرُ } ثُمَّ قَالَ لَهُ النَّبِيُّ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ { إِنِّي قَدْ خَبَأْتُ لَكَ خَبِيئًا } فَقَالَ ابْنُ صَيَّادٍ : هُوَ الدُّخُّ، فَقَالَ { اخْسَأْ، فَلَنْ تَعْدُوَ قَدْرَكَ } فَقَالَ عُمَرُ رَضِيَ اللَّهُ عَنْهُ : دَعْنِي يَا رَسُولَ اللَّهِ أَضْرِبْ عُنُقَهُ، فَقَالَ النَّبِيُّ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ { إِنْ يَكُنْهُ فَلَنْ تُسَلَّطَ عَلَيْهِ، وَإِنْ لَمْ يَكُنْهُ فَلاَ خَيْرَ لَكَ فِي قَتْلِهِ } وَقَالَ سَالِمٌ : سَمِعْتُ ابْنَ عُمَرَ رَضِيَ اللَّهُ عَنْهُمَا يَقُولُ : انْطَلَقَ بَعْدَ ذَلِكَ رَسُولُ اللَّهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ وَأُبَيُّ بْنُ كَعْبٍ إِلَى النَّخْلِ الَّتِي فِيهَا ابْنُ صَيَّادٍ وَهُوَ يَخْتِلُ أَنْ يَسْمَعَ مِنِ ابْنِ صَيَّادٍ شَيْئًا قَبْلَ أَنْ يَرَاهُ ابْنُ صَيَّادٍ، فَرَآهُ النَّبِيُّ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ وَهُوَ مُضْطَجِعٌ، يَعْنِي فِي قَطِيفَةٍ لَهُ فِيهَا رَمْزَةٌ أَوْ زَمْرَةٌ، فَرَأَتْ أُمُّ ابْنِ صَيَّادٍ رَسُولَ اللَّهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ وَهُوَ يَتَّقِي بِجُذُوعِ النَّخْلِ، فَقَالَتْ لاِبْنِ صَيَّادٍ : يَا صَافِ ـ وَهْوَ اسْمُ ابْنِ صَيَّادٍ ـ هَذَا مُحَمَّدٌ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ، فَثَارَ ابْنُ صَيَّادٍ، فَقَالَ النَّبِيُّ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ { لَوْ تَرَكَتْهُ بَيَّنَ } وَقَالَ شُعَيْبٌ فِي حَدِيثِهِ : فَرَفَصَهُ رَمْرَمَةٌ أَوْ زَمْزَمَةٌ، وَقَالَ إِسْحَاقُ الْكَلْبِيُّ وَعُقَيْلٌ : رَمْرَمَةٌ، وَقَالَ مَعْمَرٌ : رَمْزَةٌ.
อับดานได้รายงานแก่พวกเราว่า อับดุลลอฮฺได้บอกเล่าแก่พวกเรา จากยูนุส จากอัซซุฮฺรีย์ กล่าวว่า สาลิม บินอับดิลลาฮฺ ได้บอกเล่าแก่พวกเราว่า ท่านอิบนุอุมัร เราะฎิยัลลอฮุอันฮุมา ได้บอกเล่าแก่เขาว่า : ท่านอุมัรได้เดินทางไปพร้อมกับท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัม ร่วมกับคนกลุ่มหนึ่ง เพื่อไปหาอิบนุศ็อยยาด กระทั่งพวกเขาพบเขาเล่นอยู่กับเด็ก ๆ ใกล้หอคอยของบนีมะฆอละฮฺ ขณะนั้นอิบนุศ็อยยาดกำลังจะเข้าสู่วัยบรรลุศาสนภาวะ และเขายังไม่รู้ตัว กระทั่งท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัม ได้ตีเขาด้วยมือของท่าน แล้วท่านก็กล่าวกับอิบนุศ็อยยาดว่า “เจ้ายืนยันว่าฉันเป็นเราะสูลของอัลลอฮฺไหม?” อิบนุศ็อยยาดมองไปยังท่านแล้วกล่าวว่า “ฉันเป็นพยานว่าท่านคือเราะสูลของบรรดาผู้ไม่รู้หนังสือ” แล้วอิบนุศ็อยยาดก็กล่าวแก่ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัม ว่า “ท่านยืนยันว่าฉันคือเราะสูของอัลลอฮฺไหม?” ท่านนบีปฏิเสธเขาแล้วกล่าวว่า “ฉันศรัทธาต่ออัลลอฮฺและบรรดาเราะสูลของพระองค์” จากนั้นท่านนบีก็ได้กล่าวกับเขาว่า “เจ้าเห็นอะไร?” อิบนุศ็อยยาดกล่าวว่า “ผู้สัตย์จริงและคนโกหกได้มาหาฉัน” ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัม จึงกล่าวว่า “เรื่องราวถูกทำปนเปแก่เจ้าท่านแล้ว” หลังจากนั้นท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิวะ สัลลัม ก็ได้กล่าวกับเขาว่า “แท้จริงฉันได้ซ่อนบางอย่างไว้สำหรับเจ้า” อิบนุศ็อยยาดกล่าวว่า “มันคือควัน” ท่านนบีจึงกล่าวว่า “ไปให้พ้นเถิด เจ้าจะไม่เกินไปจากขีดจำกัดของเจ้าหรอก” ท่านอุมัร เราะฎิยัลลอฮุอันฮฺ ก็ได้กล่าวว่า “ท่านเราะสูลุลลอฮฺครับ ปล่อยให้ผมฟันคอเขาเถิด” ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัม จึงกล่าวว่า “หากเขาคือคนนั้น (หมายถึงดัจญาล) ท่านจะไม่มีวันทำอะไรเขาได้ และหากเขาไม่ใช่คนนั้น ก็ไม่มีความดีงามใด ๆ แก่ท่านที่จะสังหารเขา”สิาลิมกล่าวว่า ฉันเคยฟังท่านอิบนุอุมัร เราะฎิยัลลอฮุอันฮุมา กล่าวว่า : หลังจากเหตุการณ์นั้น ท่านเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัม และท่านอุบัย บินกะอบฺ ก็ได้ไปยังสวนอินทผลัมที่อิบนุศ็อยยาดอีก โดยท่านพยายามแอบฟังบางสิ่งจากอิบนุศ็อยยาด ก่อนที่อิบนุศ็อยยาดจะเห็นท่าน ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัม เห็นเขากำลังนอนเอนกาย หมายถึงอยู่ในเสื้อคลุมของเขาที่มีเสียงรำพึงรำพัน หรือเสียงพึมพำ และเมื่อแม่ของอิบนุศ็อยยาดเห็นท่านเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัม ขณะที่ท่านกำลังหลบอยู่หลังต้นอินทผลัม เธอก็ได้กล่าวกับอิบนุศ็อยยาดว่า “ศ็อฟ (เป็นชื่อของอิบนุศ็อยยาด) นี่มุฮัมหมัด ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัม!” อิบนุศ็อยยาดจึงลุกขึ้น ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัม ก็ได้กล่าวว่า “หากเธอปล่อยเขาไว้ เขาก็จะเปิดเผย (ตัวตนที่แท้จริงให้เราเห็น)” ชุอัยบฺได้กล่าวในหะดีษของเขาว่า : แล้วเขาก็ส่งเสียงพึมพำหรือรำพึงรำพัน และอิสฮาก อัลกัลบีย์ และอุก็อยลฺกล่าวว่า “เสียงพึมพำ” และมะอฺมัรกล่าวว่า “เสียงรำพึงรำพัน”
สถานะหะดีษ : เศาะฮีหฺ