หะดีษเลขที่ 12
เรื่องราวของชาย 3 คนที่ติดอยู่ในถ้ำ
وَعَنْ أَبِي عَبْدِ الرََّحْمَنِ عَبْدِ اللَّهِ بْنِ عُمَرَ بْنِ الْخَطََّابِ رَضِيَ اللَّهُ عَنْهُمَا قَالَ : سَمِعْتُ رَسُولَ اللَّهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ يَقُولُ { انْطَلَقَ ثَلاَثَةُ نَفَرٍ مِمَّنْ كَانَ قَبْلَكُمْ حَتَّىٰ آوَاهُمُ الْمَبِيتُ إِلىٰ غَارٍ فَدَخَلُوهُ، فانْحَدَرَتْ صَخْرَةٌ مِنَ الْجَبَلِ فَسَدَّتْ عَلَيْهِمُ الْغَارَ. فَقَالُوا: إِنَّهُ لَا يُنْجِيكُمْ مِنْ هَذِهِ الصَّخْرَةِ إِلَّا أَنْ تَدْعُوا اللَّهِ بِصَالِحِ أَعْمَالِكُمْ، قَالَ رَجُلٌ مِنْهُمْ: اللَّهُمَّ كَانَ لِي أَبَوَانِ شَيْخَانِ كَبِيرَانِ، وَكُنْتُ لَا أَغْبِقُ قَبْلَهُمَا أَهْلاً وَلَا مَالًا ، فَنَأَىٰ بِي طَلَبُ الشَّجَرِ يَوْمًا فَلَمْ أُرِحْ عَلَيْهِمَا حَتَّىٰ نَامَا، فَحَلَبْتُ لَهُمَا غَبُوقَهُمَا فَوَجَدْتُهُمَا نَائِمَيْنِ، فَكَرِهْتُ أَنْ أُوقِظَهُمَا وَأنْ أَغْبِقَ قَبْلَهُمَا أَهْلًا أَوْ مَالًا، فَلَبِثْتُ ـ وَالْقَدَحُ عَلَىٰ يَدِي ـ أنْتَظِرُ اسْتِيقَاظَهُمَا حَتَىٰ بَرَقَ الْفَجْرُ، والصِّبْيَةُ يَتَضَاغَوْنَ عِنْدَ قَدَمِي، فاسْتَيْقَظَا فَشَرِبَا غَبُوقَهُمَا. اللَّهُمَّ إِنْ كُنْتُ فَعَلْتُ ذَلِكَ ابْتِغَاءَ وَجْهِكَ فَفَرِّجْ عَنَّا مَا نَحْنُ فِيهِ مِنْ هَذِهِ الصَّخْرَةِ، فَانْفَرَجَتْ شَيْئًا لَا يَسْتَطِيعُونَ الْخُرُوجَ مِنْهُقَالَ الآخَرُ : اللَّهُمَّ إِنَّهُ كَانَتْ لِيَ ابْنَةُ عَمٍّ كَانَتْ أَحَبَّ النَّاسِ إِلَيََّ، وَفِي رِوَايَةٍ : كُنْتُ أُحِبُّهَا كَأَشَدِّ مَا يُحِبُّ الرِّجَالُ النِّسَاءَ، فَأَرَدْتُهَا عَلَىٰ نَفْسِها فَامْتَنَعَتْ مِنِّي، حَتَّىٰ أَلَمَّتْ بِهَا سَنَةٌ مِنَ السِّنِينَ فَجَاءَتْنِي، فَأَعْطَيْتُهَا عِشْرِينَ وَمِائَةَ دِينَارٍ عَلَىٰ أَنْ تُخَلِّيَ بَيْنِي وَبَيْنَ نَفْسِهَا فَفَعَلَتْ، حَتَّىٰ إِذَا قَدَرْتُ عَلَيْهَا، وَفِي رِوَايَةٍ : فَلَمَّا قَعَدْتُ بَيْنَ رِجْلَيْهَا، قَالَتْ : اتَّقِ اللَّهَ وَلَا تَفُضَّ الْخَاتَمَ إِلَّا بِحَقِّهِ، فَانْصَرَفْتُ عَنْهَا وَهِيَ أَحَبُّ النَّاسِ إِلَيَّ، وَتَرَكْتُ الذَّهَبَ الَّذِي أَعْطَيْتُهَا، اللَّهُمَّ إِنْ كُنْتُ فَعَلْتُ ذَلِكَ ابْتِغَاءَ وَجْهِكَ فَافْرُجْ عَنَّا مَا نَحْنُ فِيهِ، فانْفَرَجَتِ الصَّخْرَةُ غَيْرَ أَّنَّهُمْ لَا يَسْتَطِيعُونَ الْخُرُوجَ مِنْهَاوَقَالَ الثَّالِثُ : اللَّهُمَّ اسْتَأْجَرْتُ أُجَرَاءَ وَأَعْطَيْتُهُمْ أَجْرَهُمْ، غَيْرَ رَجُلٍ وَاحِدٍ تَرَكَ الَّذِي لَهُ وَذَهَبَ، فَثَمَّرْتُ أَجْرَهُ حَتَّىٰ كَثُرَتْ مِنْهُ الأَمْوَالُ، فَجَاءَنِي بَعْدَ حِينٍ فَقَالَ : يَا عَبْدَ اللَّهِ أَدِّ إِلَيََّ أَجْرِي، فَقُلْتُ : كُلُّ مَا تَرَىٰ مِنْ أَجْرِكَ؛ مِنَ الْإِبِلِ وَالْبَقَرِ وَالْغَنَمِ وَالرَّقِيقِ، فَقَالَ : يَا عَبْدَ اللَّهِ لَا تَسْتَهْزِئُ بِي! فَقُلْتُ لَا أَسْتَهْزِئُ بِكَ، فَأَخَذَهُ كُلََّهُ فَاسْتَاقَهُ فَلَمْ يَتْرُكْ مِنْهُ شَيْئًا، اللَّهُمَّ إِنْ كُنْتُ فَعَلْتُ ذَلِكَ ابْتِغَاءَ وَجْهِكَ فَافْرُجْ عَنَّا مَا نَحْنُ فِيهِ، فَانْفَرَجَتِ الصَّخْرَةُ فَخَرَجُوا يَمْشُونَ } . مُتَّفَقٌ عَلَيْهِ
และรายงานจากท่านอบูอับดุรเราะหฺมาน อับดุลลอฮฺ บินอุมัร บินอัลค็อฏฏอบ เราะฎิยัลลอฮุอันฮุมา ได้เล่าว่า : ฉันเคยฟังท่านเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัม กล่าวว่า “ก่อนหน้าพวกท่านนี้มีชายสามคนออกเดินทางจนกระทั่งเมื่อค่ำคืนมาถึง พวกเขาก็ได้เข้าไปหลบภัยในถ้ำ ทันใดนั้นมีหินก้อนหนึ่งบนภูเขาตกลงมาปิดปากถ้ำ พวกเขาจึงกล่าวว่า ‘ไม่มีทางที่จะรอดออกไปจากหินนี้ได้ได้นอกจากการวิงวอนต่ออัลลอฮฺ ด้วยความดีของพวกท่านเอง’ คนหนึ่งจึงได้วิงวอนว่า ‘โอ้อัลลอฮฺ พ่อแม่ของฉันชราภาพมากแล้ว และฉันเคยมอบนมให้กับครอบครัวและคนอื่น ๆ ในครอบครัวก่อนท่านทั้งสองเลย วันหนึ่ง ฉันได้ออกไปหาต้นไม้เสียไกลและกลับมาหลังจากที่ทั้งสองเข้านอนแล้ว เมื่อฉันรีดนมและนำไปให้ ท่านทั้งสองก็ได้หลับไปแล้ว แต่ฉันไม่อยากจะรบกวนท่านทั้งสองและไม่อยากให้นมให้กับครอบครัวและคนอื่น ๆ ในครอบครัวก่อนทั้งสองด้วย ฉันจึงอยู่อย่างนั้น (โดยที่แก้วยังอยู่ในมือของฉัน) ฉันรอคอยให้ทั้งสองตื่นขึ้น จนกระทั่งรุ่งอรุณปรากฏ ในขณะที่ลูก ๆ ของฉันร้องไห้ด้วยความหิวอยู่ที่เท้าของฉัน เมื่อท่านทั้งสองตื่นขึ้น ทั้งสองก็ได้ดื่มนมพวกท่าน โอ้อัลลอฮฺ หากว่าฉันทำสิ่งนี้โดยหวังความพอพระทัยของพระองค์ ขอพระองค์โปรดช่วยเหลือให้เราหลุดพ้นจากสิ่งที่เรากำลังประสบด้วยเถิด’ แล้วหินก็เคลื่อนตัวไป แต่พวกเขายังไม่สามารถลอดออกมาได้คนที่ 2 ได้วิงวอนว่า ‘โอ้อัลลอฮฺ ฉันมีญาติคนหนึ่งที่ฉันรักมาก’ ในอีกรายงานหนึ่งระบุว่า ‘ฉันรักเธอมากกว่าชายใดก็ตามที่รักผู้หญิง ฉันพยายามที่ชักจูงให้เธอรักฉัน แต่เธอก็ไม่สนใจ จนกระทั่งในปีแห่งความทุกข์ยากลำบากเนื่องจากการขาดแคลนอาหารมาถึง เธอก็ได้มาหาฉัน (เพื่อขอความช่วยเหลือ) และฉันได้มอบเงินให้เธอ 120 ดีนารโดยมีเงื่อนไขว่าเธอจะต้องให้ฉันอยู่ด้วยกันกับเธอ (คือมีเพศสัมพันธ์กัน) ซึ่งเธอตอบตกลง เมื่อฉันมีอำนาจเหนือเธอ’ ในอีกรายงานระบุว่า ‘เมื่อฉันนั่งอยู่ระหว่างขาทั้งสองของเธอ เธอได้กล่าวขึ้นมาว่า ‘จงเกรงกลัวอัลลอฮฺเถิด และอย่าได้ทำลายตรา (พรหมจรรย์) เว้นแต่ด้วยสิทธิของมัน’ ฉันจึงออกห่างจากเธอ ทั้ง ๆ ที่ความจริงแล้วฉันรักเธอมาก และฉันให้เธอเก็บเงินที่เคยมอบให้ด้วย โอ้อัลลอฮฺ หากว่าฉันทำสิ่งนี้โดยหวังความพอพระทัยของพระองค์ ขอพระองค์โปรดช่วยเหลือให้เราหลุดพ้นจากสิ่งที่เรากำลังประสบด้วยเถิด’ แล้วหินก็เคลื่อนตัว แต่พวกเขายังไม่สามารถลอดออกมาได้และคนที่ 3 ได้วิงวอนว่า ‘โอ้อัลลอฮฺ ฉันได้จ้างคนงานบางคนไว้และได้จ่ายค่าจ้างแก่พวกเขา แต่ลูกจ้างคนหนึ่งได้ทิ้งค่าจ้างของเขาและจากไป ฉันจึงได้นำค่าจ้างของเขาไปลงทุน กระทั่งมันเพิ่มพูนเป็นทรัพย์สินมากมาย แต่หลังจากนั้นลูกจ้างคนนั้นก็กลับมาแล้วกล่าวว่า ‘โอ้บ่าวของอัลลอฮฺ ฉันมาเอาค่าจ้างของฉัน’ ฉันจึงบอกกับเขาว่า ‘ทั้งหมดที่เจ้าเห็นอยู่นี้เป็นของเจ้า ทั้งอูฐ วัว แพะ และทาส’ เขากล่าวว่า ‘อย่าล้อฉันเล่นสิ โอ้บ่าวของอัลลอฮฺ’ ฉันยืนยันว่า ‘ฉันไม่ได้ล้อท่านเล่น’ เขาจึงเอาทั้งหมดไป และไม่เหลือสิ่งใดไว้เลย โอ้อัลลอฮฺ หากว่าฉันทำสิ่งนี้โดยหวังความพอพระทัยของพระองค์ ขอพระองค์โปรดช่วยเหลือให้เราหลุดพ้นจากสิ่งที่เรากำลังประสบด้วยเถิด’ แล้วหินก็เคลื่อนตัวจนพวกเขาสามารถออกจากถ้ำได้”(บันทึกโดยอัลบุคอรีย์และมุสลิม)
สถานะหะดีษ : เศาะฮีหฺ
