حَدَّثَنَا يَحْيَى بْنُ بُكَيْرٍ قَالَ : حَدَّثَنَا اللَّيْثُ عَنْ خَالِدٍ عَنْ سَعِيدِ بْنِ أَبِي هِلَالٍ عَنْ نُعَيْمٍ الْمُجْمِرِ قَالَ : رَقِيتُ مَعَ أَبِي هُرَيْرَةَ عَلَى ظَهْرِ الْمَسْجِدِ فَتَوَضَّأَ فَقَالَ : إِنِّي سَمِعْتُ النَّبِيَّ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ يَقُولُ { إِنَّ أُمَّتِي يُدْعَوْنَ يَوْمَ الْقِيَامَةِ غُرًّا مُحَجَّلِينَ مِنْ آثَارِ الْوُضُوءِ، فَمَنْ اسْتَطَاعَ مِنْكُمْ أَنْ يُطِيلَ غُرَّتَهُ فَلْيَفْعَلْ }
ยะหฺยา บินบุกัยรฺ ได้รายงานแก่พวกเราโดยกล่าวว่า อัลลัยษฺได้รายงานแก่พวกเรา จากคอลิด จากสะอีด บินอบีฮิลาล จากนุอัยมฺ อัลมุจมิร ซึ่งกล่าวว่า ฉันได้ขึ้นไปบนมัสญิดพร้อมกับท่านอบูฮุร็อยเราะฮฺ ท่านอาบน้ำละหมาดแล้วก็กล่าวว่า : แท้จริงฉันเคยฟังท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัม กล่าวว่า “แท้จริงประชาชาติของฉันจะถูกเรียกในวันกิยามะฮฺ โดยมีใบหน้า, ฝ่ามือ และเท้าที่สว่างสดใสจากร่องรอยของน้ำละหมาด ดังนั้น ใครก็ตามในหมู่พวกท่านที่สามารถทำให้แสงสว่างดังกล่าวยาวขึ้นได้ เขาก็จงทำเถิด”