حَدَّثَنَا قُتَيْبَةُ حَدَّثَنَا جَرِيرٌ عَنْ الْأَعْمَشِ عَنْ أَبِي صَالِحٍ عَنْ أَبِي هُرَيْرَةَ رَضِيَ اللَّهُ عَنْهُ قَالَ : قَالَ رَسُولُ اللَّهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ { صَلَاةُ أَحَدِكُمْ فِي جَمَاعَةٍ تَزِيدُ عَلَى صَلَاتِهِ فِي سُوقِهِ وَبَيْتِهِ بِضْعًا وَعِشْرِينَ دَرَجَةً، وَذَلِكَ بِأَنَّهُ إِذَا تَوَضَّأَ فَأَحْسَنَ الْوُضُوءَ ثُمَّ أَتَى الْمَسْجِدَ لَا يُرِيدُ إِلَّا الصَّلَاةَ لَا يَنْهَزُهُ إِلَّا الصَّلَاةُ، لَمْ يَخْطُ خَطْوَةً إِلَّا رُفِعَ بِهَا دَرَجَةً أَوْ حُطَّتْ عَنْهُ بِهَا خَطِيئَةٌ، وَالْمَلَائِكَةُ تُصَلِّي عَلَى أَحَدِكُمْ مَا دَامَ فِي مُصَلَّاهُ الَّذِي يُصَلِّي فِيهِ : اللَّهُمَّ صَلِّ عَلَيْهِ اللَّهُمَّ ارْحَمْهُ، مَا لَمْ يُحْدِثْ فِيهِ، مَا لَمْ يُؤْذِ فِيهِ } وَقَالَ { أَحَدُكُمْ فِي صَلَاةٍ مَا كَانَتْ الصَّلَاةُ تَحْبِسُهُ }
กุตัยบะฮฺได้รายงานแก่พวกเราว่า ญะรีรได้รายงานแก่พวกเรา จากอัลอะอฺมัช จากอบูศอลิหฺ จากท่านอบูฮุร็อยเราะฮฺ เราะฎิยัลลอฮุอันฮฺ กล่าวว่า : ท่านเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัม ได้กล่าวว่า “การละหมาดร่วมกับญะมาอะฮฺของคน ๆ หนึ่งในหมู่พวกท่านจะเพิ่มพูน (ผลบุญ) แก่การละหมาดของเขามากกว่าการละหมาดในตลาดและในบ้านถึง 27 ระดับ และดังกล่าวนั้นคือเมื่อเขาอาบน้ำละหมาดด้วยการอาบน้ำละหมาดอย่างดี แล้วเขาก็ไปที่มัสญิดโดยมิได้ต้องการสิ่งใดนอกจากการละหมาด และไม่ได้ลุกออกไปนอกจากเพื่อการละหมาด (ญะมาอะฮฺ) (เช่นนั้นแล้ว) ไม่มีย่างเก้าใดที่เขาก้าวไป เว้นแต่มันจะช่วยยกระดับสถานะของเขาขึ้นหนึ่งขั้น หรือช่วยลบล้างความผิดของเขาหนึ่งความผิด และบรรดามลาอิกะฮฺจะขอให้ดุอาอ์ให้กับคน ๆ หนึ่งในหมู่พวกท่าน ตราบใดที่เขายังอยู่ในที่ละหมาดของเขา (มลาอิกะฮฺเหล่านั้นจะขอดุอาอ์ว่า) ‘โอ้อัลลอฮฺ โปรดประทานพรให้กับเขาเถิด โอ้อัลลอฮฺ โปรดเมตตาเขาด้วยเถิด’ ตราบใดที่เขาไม่มีหะดัษและมิได้ทำร้ายใครที่นั่น” และท่านนบีได้กล่าวอีกว่า “คน ๆ หนึ่งในหมู่พวกเขาถือว่าอยู่ในการละหมาดแล้ว เมื่อเขารอคอย (เวลา) ที่จะทำการละหมาด”