حَدَّثَنَا عَبْدُ اللَّهِ بْنُ يُوسُفَ قَالَ : أَخْبَرَنَا مَالِكٌ عَنْ هِشَامِ بْنِ عُرْوَةَ عَنْ أَبِيهِ عَنْ عَائِشَةَ : أَنَّ رَسُولَ اللَّهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ قَالَ { إِذَا نَعَسَ أَحَدُكُمْ وَهُوَ يُصَلِّي فَلْيَرْقُدْ حَتَّى يَذْهَبَ عَنْهُ النَّوْمُ، فَإِنَّ أَحَدَكُمْ إِذَا صَلَّى وَهُوَ نَاعِسٌ لَا يَدْرِي لَعَلَّهُ يَسْتَغْفِرُ فَيَسُبُّ نَفْسَهُ }
อับดุลลอฮฺ บินยูสุฟ ได้รายงานแก่พวกเราโดยกล่าวว่า มาลิกได้บอกเล่าแก่พวกเรา จากฮิชาม บินอุรวะฮฺ จากพ่อของเขา (คือ อุรวะฮฺ บินอัซซุบัยรฺ) จากท่านหญิงอาอิชะฮฺว่า : ท่านเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัม ได้กล่าวว่า “หากคนใดคนหนึ่งในหม่พวกท่านง่วงนอนขณะกำลังละหมาด เขาก็ควรงีบหลับเสียก่อนจนกว่าอาการง่วงนอนจะหายไป เพราะการที่คนหนึ่งคนใดในหมู่พวกท่านละหมาดในสภาพที่ง่วงนอนนั้น คือเขาอยู่ในสภาพที่ไม่รู้ตัว (ว่ากำลังทำหรือพูดอะไรไปบ้าง) เขาอาจจะต้องการขออภัยโทษ (อิสติฆฟาร) แต่กลับเป็นการด่าทอตัวเองแทน”