حَدَّثَنَا سُلَيْمَانُ بْنُ حَرْبٍ حَدَّثَنَا حَمَّادُ بْنُ زَيْدٍ عَنْ ثَابِتٍ عَنْ أَنَسٍ رَضِىَ اللَّهُ عَنْهُ قَالَ : صَلَّى النَّبِيُّ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ الصُّبْحَ قَرِيبًا مِنْ خَيْبَرَ بِغَلَسٍ، ثُمَّ قَالَ { اللَّهُ أَكْبَرُ خَرِبَتْ خَيْبَرُ، إِنَّا إِذَا نَزَلْنَا بِسَاحَةِ قَوْمٍ، فَسَاءَ صَبَاحُ الْمُنْذَرِينَ } فَخَرَجُوا يَسْعَوْنَ فِي السِّكَكِ، فَقَتَلَ النَّبِيُّ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ الْمُقَاتِلَةَ، وَسَبَى الذُّرِّيَّةَ، وَكَانَ فِي السَّبْىِ صَفِيَّةُ، فَصَارَتْ إِلَى دِحْيَةَ الْكَلْبِيِّ، ثُمَّ صَارَتْ إِلَى النَّبِيِّ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ، فَجَعَلَ عِتْقَهَا صَدَاقَهَا
فَقَالَ عَبْدُ الْعَزِيزِ بْنُ صُهَيْبٍ لِثَابِتٍ : يَا أَبَا مُحَمَّدٍ آنْتَ قُلْتَ لأَنَسٍ مَا أَصْدَقَهَا؟، فَحَرَّكَ ثَابِتٌ رَأْسَهُ تَصْدِيقًا لَهُ
สุลัยมาน บินหัรบฺ ได้รายงานแก่พวกเราว่า ฮัมมาด บินซัยดฺ ได้รายงานแก่พวกเรา จากษาบิต จากท่านอนัส เราะฎิยัลลอฮุอันฮฺ กล่าวว่า : ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัม เคยละหมาดศุบหฺใกล้กับค็อยบัรในตอนเช้ามืด จากนั้นท่านก็กล่าวว่า “อัลลอฮุอักบัร (อัลลอฮฺยิ่งใหญ่ที่สุด) ค็อยบัรจงพินาศ แท้จริงแล้วเมื่อเราได้มาถึงที่พำนักของกลุ่มชนหนึ่ง ‘ยามเช้าของบรรดาผู้ถูกตักเตือนนั้นย่อมเลวร้ายแน่นอน'” (อัศศ็อฟฟาต 37 : 177) แล้วชาวค็อยบัรก็ออกไปในถนน (เพื่อไปทำงาน) แล้วท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัม ก็ได้สังหารทหารที่ต่อสู้และจับลูกหลานของพวกเขาเป็นเชลยศึก ซึ่งในเชลยศึกนั้นมีท่านหญิงเศาะฟิยยะฮฺอยู่ด้วย เธอตกเป็นของท่านดิหฺยะฮฺ อัลกัลบีย์ แล้วต่อมาก็ตกเป็นของท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัม แล้วท่านก็แต่งงานกับเธอ โดยมีค่ามะฮัรเป็นการปลดปล่อยเธอให้เป็นอิสระ
อับดุลอะซีซ บินศุหัยบฺ ได้กล่าวกับษาบิตว่า “โอ้อบูมุฮัมหมัด ท่านได้ถามท่านอนัสไหมว่า ค่ามะฮัรของท่านหญิงเศาะฟิยยะฮฺคืออะไร?” ท่านอนัสขยับหัวของท่านเป็นสัญญาณยืนยันว่าใช่