حَدَّثَنَا عَبْدُ اللَّهِ بْنُ يُوسُفَ قَالَ : أَخْبَرَنَا مَالِكٌ عَنْ أَبِي الزِّنَادِ عَنْ الْأَعْرَجِ عَنْ أَبِي هُرَيْرَةَ : أَنَّ رَسُولَ اللَّهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ قَالَ { إِذَا تَوَضَّأَ أَحَدُكُمْ فَلْيَجْعَلْ فِي أَنْفِهِ ثُمَّ لِيَنْثُرْ وَمَنْ اسْتَجْمَرَ فَلْيُوتِرْ، وَإِذَا اسْتَيْقَظَ أَحَدُكُمْ مِنْ نَوْمِهِ فَلْيَغْسِلْ يَدَهُ قَبْلَ أَنْ يُدْخِلَهَا فِي وَضُوئِهِ فَإِنَّ أَحَدَكُمْ لَا يَدْرِي أَيْنَ بَاتَتْ يَدُهُ }
มุอ๊าซ บินฟะฎอละฮฺ ได้รายงานแก่พวกเราโดยกล่าวว่า ฮิชามได้รายงานแก่พวกเรา จากยะหฺยา เขาคือลูกชายของอบูกะษีรจากอบูกิลาบะฮฺว่า อบุลมะลีหฺได้รายงานแก่เขาโดยกล่าวว่า : เราเคยอยู่กับท่านบุร็อยดะฮฺในวันที่มีเมฆปกคลุม แล้วท่านก็กล่าวว่า “รีบละหมาดกันเถิด แท้จริงท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัม เคยกล่าวไว้ว่า ‘ใครที่ทิ้งละหมาดอัศรฺ การงานของเขาก็จะไร้ผล’“