حَدَّثَنَا عَبْدُ اللَّهِ بْنُ مَسْلَمَةَ عَنْ مَالِكٍ عَنْ أَبِي الزِّنَادِ عَنْ الْأَعْرَجِ عَنْ أَبِي هُرَيْرَةَ : أَنَّ رَسُولَ اللَّهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ قَالَ { الْمَلَائِكَةُ تُصَلِّي عَلَى أَحَدِكُمْ مَا دَامَ فِي مُصَلَّاهُ مَا لَمْ يُحْدِثْ : اللَّهُمَّ اغْفِرْ لَهُ اللَّهُمَّ ارْحَمْهُ، لَا يَزَالُ أَحَدُكُمْ فِي صَلَاةٍ مَا دَامَتْ الصَّلَاةُ تَحْبِسُهُ لَا يَمْنَعُهُ أَنْ يَنْقَلِبَ إِلَى أَهْلِهِ إِلَّا الصَّلَاةُ }
อับดุลลอฮฺ บินมัสละมะฮฺ ได้รายงานแก่พวกเรา จากมาลิก จากอบุซซินาด จากอัลอะอฺร็อจญ์ จากท่านอบูฮุร็อยเราะฮฺ ว่า : ท่านเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัม ได้กล่าวว่า “บรรดามลาอิกะฮฺจะขอให้ดุอาอ์ให้กับคน ๆ หนึ่งในหมู่พวกท่าน ตราบใดที่เขายังอยู่ในที่ละหมาดของเขาโดยไม่มีหะดัษ (โดยมลาอิกะฮฺจะกล่าวว่า) ‘โอ้อัลลอฮฺ โปรดอภัยโทษให้กับเขาด้วยเถิด โอ้อัลลอฮฺ โปรดเมตตาเขาด้วยเถิด’ และคน ๆ หนึ่งในหมู่พวกท่านจะถือว่าอยู่ในการละหมาด เมื่อเขารอคอย (เวลา) ที่จะทำการละหมาด โดยไม่มีสิ่งใดที่ยับยั้งและขัดขวางเขาจากการกลับไปหาครอบครัวนอกจากการละหมาดนั้น”