حَدَّثَنَا سَعِيدُ بْنُ عُفَيْرٍ قَالَ : حَدَّثَنَا ابْنُ وَهْبٍ عَنْ يُونُسَ عَنْ ابْنِ شِهَابٍ قَالَ : قَالَ حُمَيْدُ بْنُ عَبْدِ الرَّحْمَنِ سَمِعْتُ مُعَاوِيَةَ خَطِيبًا يَقُولُ : سَمِعْتُ النَّبِيَّ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ يَقُولُ { مَنْ يُرِدْ اللَّهُ بِهِ خَيْرًا يُفَقِّهْهُ فِي الدِّينِ، وَإِنَّمَا أَنَا قَاسِمٌ وَاللَّهُ يُعْطِي، وَلَنْ تَزَالَ هَذِهِ الْأُمَّةُ قَائِمَةً عَلَى أَمْرِ اللَّهِ لَا يَضُرُّهُمْ مَنْ خَالَفَهُمْ حَتَّى يَأْتِيَ أَمْرُ اللَّهِ }
สะอีด บินอุฟัยรฺ ได้รายงานแก่พวกเราโดยกล่าวว่า อิบนุวะฮบฺได้รายงานแก่พวกเรา จากยูนุส จากอิบนุชิฮาบ ซึ่งกล่าวว่า หุมัยดฺ บินอับดุรเราะหฺมาน ได้กล่าวว่า ฉันได้ฟังท่านมุอาวิยะฮฺกล่าวคฏบะฮฺว่า : ฉันได้ฟังท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัม กล่าวว่า “ใครที่อัลลอฮฺประสงค์สิ่งที่ดีงามแก่เขา พระองค์จะทรงให้เขาเข้าใจในศาสนา และแท้จริงแล้วฉันเป็นเพียงผู้จัดสรร อัลลอฮฺต่างหากคือผู้ประทานให้ และประชาชาตินี้จะยังคงดำรงอยู่บนพระบัญชาของอัลลอฮฺ โดยที่ผู้ที่ต่อต้านพวกเขาจะไม่สามารถทำอันตรายใด ๆ แก่พวกเขาได้ กระทั่งพระบัญชาของอัลลอฮฺมาถึง”