حَدَّثَنَا عُثْمَانُ بْنُ أَبِي شَيْبَةَ حَدَّثَنَا جَرِيرٌ عَنِ الأَعْمَشِ عَنْ أَبِي صَالِحٍ عَنْ أَبِي هُرَيْرَةَ قَالَ : قَالَ رَسُولُ اللَّهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ { لاَ تَحَاسُدَ إِلاَّ فِي اثْنَتَيْنِ، رَجُلٌ آتَاهُ اللَّهُ الْقُرْآنَ، فَهْوَ يَتْلُوهُ آنَاءَ اللَّيْلِ وَالنَّهَارِ، يَقُولُ : لَوْ أُوتِيتُ مِثْلَ مَا أُوتِيَ هَذَا لَفَعَلْتُ كَمَا يَفْعَلُ، وَرَجُلٌ آتَاهُ اللَّهُ مَالاً يُنْفِقُهُ فِي حَقِّهِ فَيَقُولُ : لَوْ أُوتِيتُ مِثْلَ مَا أُوتِيَ لَفَعَلْتُ كَمَا يَفْعَلُ }
حَدَّثَنَا قُتَيْبَةُ حَدَّثَنَا جَرِيرٌ بِهَذَا
อุษมาน บินอบูชัยบะฮฺ ได้รายงานแก่พวกเราว่า ญะรีรได้รายงานแก่พวกเรา จากอัลอะอฺมัช จากอบูศอลิหฺ จากท่านอบูฮุร็อยเราะฮฺ กล่าวว่า : ท่านเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัม ได้กล่าวว่า “พวกท่านอย่าได้อิจฉาริษยากันยกเว้นต่อ 2 คน คือผู้ที่อัลลอฮฺได้ประทาน (ความรู้ใน) อัลกุรอานแก่เขา แล้วเขาก็อ่านมันตลอดช่วงกลางคืนและกลางวัน กระทั่งมีคนกล่าวว่า ‘ถ้าฉันได้รับ (ความโปรดปราน) เหมือนที่คน ๆ นี้ได้รับ ฉันก็จะทำเหมือนที่เขาทำแน่นอน’ และผู้ที่อัลลอฮฺได้ประทานทรัพย์สมบัติ แล้วเขาก็ใช้จ่ายมันตามสิทธิของทรัพย์สินนั้น กระทั่งมีคนกล่าวว่า ‘หากฉันได้รับ (ความโปรดปราน) เหมือนที่คน ๆ นี้ได้รับ ฉันก็จะทำเหมือนที่เขาทำแน่นอน'”
กุตัยบะฮฺได้รายงานแก่พวกเราว่า ญะรีรได้รายงานหะดีษนี้แก่พวกเราเช่นกัน