حَدَّثَنَا عَلِيُّ بْنُ عَبْدِ اللَّهِ حَدَّثَنَا سُفْيَانُ قَالَ : الزُّهْرِيُّ عَنْ سَالِمٍ عَنْ أَبِيهِ : عَنْ النَّبِيِّ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ قَالَ { لَا حَسَدَ إِلَّا فِي اثْنَتَيْنِ، رَجُلٌ آتَاهُ اللَّهُ الْقُرْآنَ فَهُوَ يَتْلُوهُ آنَاءَ اللَّيْلِ وَآنَاءَ النَّهَارِ، وَرَجُلٌ آتَاهُ اللَّهُ مَالًا فَهُوَ يُنْفِقُهُ آنَاءَ اللَّيْلِ وَآنَاءَ النَّهَارِ }
سَمِعْتُ سُفْيَانَ مِرَارًا لَمْ أَسْمَعْهُ يَذْكُرُ الْخَبَرَ وَهُوَ مِنْ صَحِيحِ حَدِيثِهِ
อลี บินอับดุลลอฮฺ ได้รายงานแก่พวกเราว่า สุฟยานได้รายงานแก่พวกเราโดยกล่าวว่า อัซซุฮฺรีย์ได้รายงาน จากสาลิก จากพ่อของเขา : จากท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัม ท่านได้กล่าวว่า “ไม่อนุญาตให้อิจฉานอกจากใน 2 บุคคลเท่านั้นคือ ผู้ที่อัลลอฮฺทรงประทานอัลกุรอานแก่เขา แล้วเขาก็อ่านมันทั้งในตอนกลางคืนและกลางวัน และผู้ที่อัลลอฮฺประทานทรัพย์สินแก่เขา แล้วเขาก็ใช้จ่ายมัน (ในทางที่ถูกต้อง) ทั้งในตอนกลางคืนและกลางวัน”
(อลีกล่าวว่า) ฉันได้ฟังสุฟยานหลายครั้ง แต่ไม่เคยได้ยินเขารายงานหะดีษด้วยสำนวนบอกเล่าเลย (แต่จะรายงานหะดีษด้วยสำนวน “จาก”) และนี่คือหนึ่งในหะดีษที่เศาะฮีหฺของเขา