หะดีษเลขที่ 2
ชายที่รับค่าจ้างจากการรุกยะฮฺให้กับหัวหน้าเผ่าชาวอาหรับ
حَدَّثَنَا أَبُو النُّعْمَانِ حَدَّثَنَا أَبُو عَوَانَةَ عَنْ أَبِي بِشْرٍ عَنْ أَبِي الْمُتَوَكِّلِ عَنْ أَبِي سَعِيدٍ رَضِيَ اللَّهُ عَنْهُ قَالَ :انْطَلَقَ نَفَرٌ مِنْ أَصْحَابِ النَّبِيِّ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ فِي سَفْرَةٍ سَافَرُوهَا حَتَّى نَزَلُوا عَلَى حَيٍّ مِنْ أَحْيَاءِ الْعَرَبِ، فَاسْتَضَافُوهُمْ فَأَبَوْا أَنْ يُضَيِّفُوهُمْ، فَلُدِغَ سَيِّدُ ذَلِكَ الْحَيِّ، فَسَعَوْا لَهُ بِكُلِّ شَيْءٍ لَا يَنْفَعُهُ شَيْءٌ، فَقَالَ بَعْضُهُمْ : لَوْ أَتَيْتُمْ هَؤُلَاءِ الرَّهْطَ الَّذِينَ نَزَلُوا، لَعَلَّهُ أَنْ يَكُونَ عِنْدَ بَعْضِهِمْ شَيْءٌ،فَأَتَوْهُمْ فَقَالُوا : يَا أَيُّهَا الرَّهْطُ إِنَّ سَيِّدَنَا لُدِغَ وَسَعَيْنَا لَهُ بِكُلِّ شَيْءٍ لَا يَنْفَعُهُ، فَهَلْ عِنْدَ أَحَدٍ مِنْكُمْ مِنْ شَيْءٍ؟ فَقَالَ بَعْضُهُمْ : نَعَمْ، وَاللَّهِ إِنِّي لَأَرْقِي، وَلَكِنْ وَاللَّهِ لَقَدْ اسْتَضَفْنَاكُمْ فَلَمْ تُضَيِّفُونَا، فَمَا أَنَا بِرَاقٍ لَكُمْ حَتَّى تَجْعَلُوا لَنَا جُعْلًا، فَصَالَحُوهُمْ عَلَى قَطِيعٍ مِنْ الْغَنَمِ، فَانْطَلَقَ يَتْفِلُ عَلَيْهِ وَيَقْرَأُ : الْحَمْدُ لِلَّهِ رَبِّ الْعَالَمِينَ، فَكَأَنَّمَا نُشِطَ مِنْ عِقَالٍ فَانْطَلَقَ يَمْشِي وَمَا بِهِ قَلَبَةٌقَالَ : فَأَوْفَوْهُمْ جُعْلَهُمْ الَّذِي صَالَحُوهُمْ عَلَيْهِ، فَقَالَ بَعْضُهُمْ : اقْسِمُوا، فَقَالَ الَّذِي رَقَى : لَا تَفْعَلُوا حَتَّى نَأْتِيَ النَّبِيَّ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ فَنَذْكُرَ لَهُ الَّذِي كَانَ فَنَنْظُرَ مَا يَأْمُرُنَا، فَقَدِمُوا عَلَى رَسُولِ اللَّهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ فَذَكَرُوا لَهُ، فَقَالَ { وَمَا يُدْرِيكَ أَنَّهَا رُقْيَةٌ؟ } ثُمَّ قَالَ { قَدْ أَصَبْتُمْ، اقْسِمُوا، وَاضْرِبُوا لِي مَعَكُمْ سَهْمًا } فَضَحِكَ رَسُولُ اللَّهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَقَالَ أَبُو عَبْد اللَّهِ : وَقَالَ شُعْبَةُ : حَدَّثَنَا أَبُو بِشْرٍ سَمِعْتُ أَبَا الْمُتَوَكِّلِ بِهَذَا
อันนุอฺมานได้รายงานแก่พวกเราว่า อบูอะวานะฮฺได้รายงานแก่พวกเรา จากอบูบิชรฺ จากอบุลมุตะวักกิล จากท่านอบูสะอีด (อัลคุดรีย์) เราะฎิยัลลอฮุอันฮฺ ได้กล่าวว่า :เศาะหาบะฮฺกลุ่มหนึ่งของท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัม ได้ออกไปในการเดินทางหนึ่ง กระทั่งไปถึงหมู่บ้านอาหรับแห่งหนึ่ง พวกเขาได้ขอให้คนในหมู่บ้านรับพวกเขาเป็นแขก แต่ชาวบ้านปฏิเสธ แล้วหัวหน้าเผ่าอาหรับของหมู่บ้านนั้นก็ถูก (สัตว์มีพิษ) กัด พวกเขาพยายามหาทุกอย่างมารักษาแล้ว แต่ไม่เกิดประโยชน์ใด ๆ พวกเขาบางคนจึงกล่าวว่า “พวกท่านลองไปหาคนเหล่านั้นสิ หวังว่าพวกเขาจะมีบางอย่าง (ที่สามารถใช้รักษาได้)”แล้วพวกเขาก็มาหาเศาะหาบะฮฺกลุ่มนั้น และได้กล่าวว่า “โอ้ท่านผู้มาเยือน แท้จริงหัวหน้าเผ่าของเราถูก (สัตว์มีพิษ) กัด และเราพยายามหาทุกอย่างมารักษาแล้ว แต่ไม่เกิดประโยชน์ใด ๆ พวกท่านพอจะมีสิ่งใดที่ใช้รักษาเขาได้บ้างไหม?” เศาะหาบะฮฺคนหนึ่งตอบว่า “แน่นอน ขอสาบานต่ออัลลอฮฺ ฉันจะรักษาให้ด้วยวิธีรุกยะฮฺ แต่ขอสาบานต่ออัลลอฮฺ เราขอให้พวกท่านรับเราเป็นแขก แต่พวกท่านกลับปฏิเสธ ฉันจะไม่รักษาให้กับพวกท่านหรอก เว้นแต่พวกท่านจะจ่ายค่าตอบแทนให้” แล้วพวกเขาก็ยอมจ่ายค่าตอบแทนเป็นแพะจำนวนหนึ่ง เศาะหาบะฮฺคนนั้นจึงเดินทางไปหาหัวหน้าเผ่าและรักษาเขาด้วยการอ่าน (รุกยะฮฺ) “อัลหัมดุลิลลาฮฺ ร็อบบิล อาละมีน” (คือ สูเราะฮฺอัลฟาติหะฮฺ) เสมือนว่าปมเชือกที่ถูกมัดไว้ได้ถูกแก้ออกเรียบร้อย ทั้ง ๆ ที่เศาะหาบะฮฺท่านนั้นไม่ได้นำยาใด ๆ ไปด้วยเลยท่านอบูสะอีดเล่าต่อว่า : แล้วพวกเขาก็จ่ายค่าตอบแทนตามที่ได้สัญญาไว้ บางคนในหมู่เศาะหาบะฮฺก็ได้กล่าวว่า “แบ่งกันเถิด” แต่คนที่ทำการรักษาพูดว่า “อย่าเพิ่งแบ่ง จนกว่าพวกเราจะได้ไปหาท่านนบี ขอพรและความศานติจงมีแด่ท่าน และเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ท่านทราบ ดูสิว่าท่านจะสั่งใช้ให้เราทำอย่างไร” แล้วพวกเขาก็มาหาท่านเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัม และเล่าเรื่องดังกล่าวแก่ท่าน ท่านก็ถามว่า “ท่านรู้ได้อย่างไรว่ามัน (อัลฟาติหะฮฺ) ใช้รักษาด้วยวิธีรุกยะฮฺได้?” จากนั้นท่านก็กล่าวว่า “พวกท่านทำถูกต้องแล้ว แบ่ง (แพะเหล่านั้น) เถิด และให้ฉันมีส่วนร่วมกับพวกท่านด้วยนะ” แล้วท่านเราะสูลุลลอฮฺก็หัวเราะ ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัมอบูอับดุลลอฮฺ (หมายถึง อิมามอัลบุคอรีย์) กล่าวว่า ชุอฺบะฮฺได้กล่าวว่า อบูบิชรฺได้รายงานแก่พวกเราว่า ฉันฟังอบุลมุตะวักกิลรายงานไว้อย่างนี้(บันทึกโดยอัลบุคอรีย์ หะดีษเลขที่ 2276)
สถานะหะดีษ : เศาะฮีหฺ