:: เส้นทางพิชิตอักศอที่ต่างกัน ::
: ระหว่างยุคเคาะลีฟะฮฺอุมัร & สุลต่านเศาะลาหุดดีน
เมื่อชาวมุสลิมพิชิตแผ่นดินอัลอักศอได้สำเร็จในปี ฮ.ศ.16 Sophronius พระสังฆราชแห่งเยรูซาเล็ม ก็ได้ร้องขอให้ผู้นำสูงสุดของอาณาจักรอิสลามเดินทางมารับกุญแจเปิดอักศอด้วยตัวเอง เคาะลีฟะฮฺอุมัร บินอัลค็อฏฏ็อบ จึงได้ออกเดินไปด้วยความน้อบน้อม แต่เปี่ยมด้วยความองอาจและมีเกียรติยิ่ง เพื่อรับมอบกุญแจอัลอักศอด้วยตัวของท่านเอง และนับแต่นั้นมาอัลอักศอก็ได้เข้ามาอยู่ใต้การปกครองและดูแลอย่างดีโดยชาวมุสลิม
อิมามอัฏเฏาะบะรีย์ได้รายงานเนื้อหาสนธิสัญญาของชาวอีลิยาอ์ (ในแผ่นดินปาเลสไตน์) ซึ่งระบุว่า เคาะลีฟะฮฺอุมัรจะให้การคุ้มครองแก่ชีวิตและทรัพย์สินของชาวอีลิยาอ์ รวมถึงโบสถ์และสัญลักษณ์ไม้กางเกง ข้อความตอนหนึ่งระบุว่า
“…สถานที่อิบาดะฮฺจะไม่ถูกทำลาย และจะไม่มีใครแม้แต่คนเดียวที่ถูกทำร้าย
แต่ไม่อนุญาตให้ชาวยิวอาศัยอยู่ในอีลิยาอ์…”
ข้อความที่ว่า “ไม่อนุญาตให้ชาวยิวอาศัยอยู่ในอีลิยาอ์” นั้นไม่ได้มาจากความต้องการของเคาะลีฟะฮฺอุมัรหรือชาวมุสลิม แต่เป็นคำขอของ Sophronius พระสังฆราชแห่งเยรูซาเล็มเอง ทั้งนี้เพราะชาวยิวเคยทรยศหักหลังโรมัน (ชาวคริสเตียน) ด้วยการช่วยเหลือผู้ปกครองเปอร์เซียที่เอาสัญลักษณ์ไม้กางเขนไป (แต่จักรพรรดิเฮราคลิอัสสามารถยึดคืนมาได้) ในช่วงต้นปีคริสตศักราชที่ 7
อย่างไรก็ตาม เคาะลีฟะฮฺอุมัรได้ปฏิเสธคำขอดังกล่าว และอนุญาตให้ชาวยิวเข้ามาอยู่อาศัยในเยรูซาเล็มได้ ซึ่งนี่คือความใจกว้างที่ชัดเจนของอิสลามและชาวมุสลิม
เมื่อพิชิตปาเลสไตน์ได้แล้ว ชาวมุสลิมก็ได้ดำเนินการพิชิตต่อไปกระทั่งสามารถพิชิตอียิปต์ได้สำเร็จ ในปี ฮ.ศ.21 (ตรงกับ ค.ศ.641) ภายใต้การนำของท่านอัมรู บินอัลอาศ เราะฎิยัลลอฮุอันฮฺ อียิปต์ก็ได้เข้ามาอยู่ภายใต้การปกครองของอาณาจักรอิสลาม และชาวกิบฏีย์ (อียิตป์) จำนวนมาก รวมถึงชาวแอฟริกาต่างพากันเข้ารับอิสลาม
การพิชิตอัลอักศอในยุคเคาะลีฟะฮฺอุมัรแตกต่างจากยุคของสุลต่านเศาะลาหุดดีน เพราะในยุคของท่านอุมัรนั้นอัลอักศอถูกพิชิตก่อนอียิปต์ แต่ในยุคของสุลต่านเศาะลาหุดดีน สุลต่านได้เข้าพิชิตอียิปต์จากราชวงศ์ฟาฏิมิยยะฮฺ (ชีอะฮฺ) ก่อนจะหันไปยังปาเลสไตน์และพิชิตอัลอักศอมาได้สำเร็จ ในปี ฮ.ศ.583 (ตรงกับปี ค.ศ.1187)
“อียิปต์” และ “ปาเลสไตน์” นั้นถือเป็นก้อนเดียวกัน ในชีวประวัติของนบีหลายท่าน แผ่นดินทั้งสองเสมือนเป็นแผ่นดินเดียวกัน ไม่สามารถแยกจากกันได้
นบีอิบรอฮีม อะลัยฮิสสะลาม เคยอาศัยอยู่ที่ปาเลสไตน์ ก่อนจะเดินทางเข้าไปที่อียิปต์ แล้วกลับมาที่ปาเลสไตน์อีกครั้ง นบียูสุฟ, นบียะอฺกูบ และครอบครัวของท่านก็เคยอพยพจากกันอาน (ส่วนหนึ่งของแผ่นดินปาเลสไตน์) ไปที่อียิปต์ นบีมูซาก็เช่นกัน เมื่อท่านนำบนีอิสรออีลอพยพหนีการไล่ล่าของฟิรเอานฺ ท่านก็ได้นำพวกเขาออกจากอียิปต์ไปยังแผ่นดินปาเลสไตน์ แต่เพราะความขี้ขลาดของบนีอิสรออีล พวกเขาไม่ยอมเข้าไปในปาเลสไตน์ กระทั่งนบีมูซาเสียชีวิตไป ก่อนที่ต่อมานบียูชะอฺ บินนูน (ผู้หยุดและสนทนากับดวงอาทิตย์) ก็ได้นำพวกเขาเข้าไปในแผ่นดินอัลอักศอได้สำเร็จ
ดังนั้น อียิปต์และปาเลสไตน์จึงเป็น 2 แผ่นดินที่ไม่สามารถแยกกันได้ ในทางภูมิศาสตร์เอง ทั้งสองเป็นแผ่นดินที่เชื่อมติดกัน จึงเป็นไปได้ว่าการพิชิตอัลอักศอที่จะเกิดขึ้นแน่นอนในอนาคต อาจจะมาจากฝั่งปาเลสไตน์ (หรือชาม) เหมือนในยุคเคาะลีฟะฮฺอุมัร บินอัลค็อฏฏ็อบ ก็เป็นได้ หรืออาจจะมาจากฝั่งอียิปต์ เหมือนในยุคสุลต่านเศาะลาหุดดีน อัลอัยยูบีย์ ก็เป็นไปได้เช่นกัน และอัลลอฮฺคือผู้ทรงรอบรู้ที่สุด
ไม่ว่าการพิชิตในอนาคตจะมาจากฝั่งไหน ขออัลลอฮฺทรงให้เราได้อยู่เคียงข้างผู้คนแห่งปาเลสไตน์ และเป็นส่วนหนึ่งของกองทัพที่พิชิตอัลอักศอด้วยเถิด อามีน