จากท่านญาบิร บินอับดุลลอฮฺ เราะฎิยัลลอฮุอันฮุมา เล่าว่า : มีชายคนหนึ่งมาหาท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัม และถามว่า “โอ้ท่านเราะสูลุลลอฮฺ อะไรคือความแน่นอนสองประการล่ะ?” ท่านตอบว่า “ผู้ใดเสียชีวิตโดยที่ไม่ตั้งสิ่งใดเป็นภาคีกับอัลลอฮฺ เขาจะได้เข้าสวนสวรรค์ และผู้ใดเสียชีวิตโดยไม่ตั้งสิ่งหนึ่งเป็นภาคีกับอัลลอฮฺ เขาย่อมเข้านรก”(บันทึกโดยมุสลิม หะดีษเลขที่ 93)

จากท่านอุบาดะฮฺ บินอัศศอมิต เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ เล่าว่า : ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัม ได้กล่าวว่า “ผู้ใดปฏิญาณว่า ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอัลลอฮฺเพียงพระองค์เดียว โดยไม่มีภาคีใด ๆ สำหรับพระองค์ และปฏิญาณว่านบีมุหัมมัดนั้นเป็นบ่าวและเราะสูลของพระองค์ และนบีอีซาคือบ่าวและเราะสูลของพระองค์ และเป็นสัญญาณความยิ่งใหญ่ของพระองค์ที่ทรงมอบแด่ท่านหญิงมัรยัม และเป็นดวงวิญญาณจากพระองค์ และยืนยันว่าสวรรค์นั้นมีจริง และนรกก็มีจริง อัลลอฮฺจะทรงให้เขาได้เข้าสวนสวรรค์ตามที่เขาได้ปฏิบัติ”(บันทึกโดยอัลบุคอรีย์ หะดีษเลขที่ 3435 และมุสลิม หะดีษเลขที่ 28)

จากท่านอบูอัยยูบ เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ เล่าว่า : มีชายคนหนึ่งมาหาท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัม แล้วกล่าวว่า "โปรดชี้แนะผมเกี่ยวกับการงานที่เมื่อผมปฏิบัติแล้วจะทำให้ผมเข้าใกล้สวรรค์และห่างไกลจากนรกด้วยเถิด" ท่านนบีตอบว่า “ท่านจะต้องอิบาดะฮฺต่ออัลลอฮฺ โดยไม่มีสิ่งใดมาเป็นภาคีกับพระองค์, และดำรงละหมาด, จ่ายซะกาต, และเชื่อมสัมพันธ์ดีกับเครือญาติ” หลังจากที่ชายคนนั้นกลับไป ท่านเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิ วะสัลลัม ได้กล่าวว่า “หากเขาปฏิบัติสิ่งที่ถูกใช้นี้แล้ว เขาจะได้เข้าสวนสวรรค์”(บันทึกโดยมุสลิม หะดีษเลขที่ 13)

จากท่านอบูอุมามะฮฺ เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ เล่าว่า : ท่านเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุ อะลัย ฮิวะสัลลัม ได้กล่าวว่า “ผู้ใดอ่านอายะฮฺอัลกุรสีย์ (อายะฮฺที่ 255 ของสูเราะฮฺอัลบะเกาะเราะฮฺ) ทุกหลังละหมาดฟัรฎู ไม่มีสิ่งใดจะขัดขวางเขาไม่ให้เข้าสวนสวรรค์ นอกจากความตาย" (คือ เมื่อเขาตายก็จะได้เข้าสวรรค์อย่างแน่นอน)(บันทึกโดยอันนะสาอีย์ ใน “สุนัน อัลกุบรอ” หะดีษเลขที่ 9848 และเชคอัลอัลบานีย์กล่าวว่าเป็นหะดีษที่ เศาะฮีหฺใน “เศาะฮีหฺ อัล-ญามิอฺ” หะดีษเลขที่ 6464)

จากท่านอนัส บินมาลิก เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ เล่าว่า : ท่านเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัม ได้กล่าวว่า “มีสูเราะฮฺหนึ่งในอัลกุรอานที่มี 30 อายะฮฺ ซึ่งจะช่วยคุ้มครองผู้ที่อ่านมัน กระทั่งทำให้เขาได้เข้าสวนสวรรค์ นั้นคือสูเราะฮฺตะบาร็อก (อัลมุลกฺ)”(บันทึกโดยอัฏเฏาะบะรอนีย์ใน “อัลเอาสัฏฺ” หะดีษเลขที่ 3779 และเชคอัลอัลบานีย์กล่าวว่าเป็นหะดีษที่หะสัน ใน “เศาะฮีหฺ อัล-ญามิอฺ” หะดีษเลขที่ 3644)

จากท่านญาบิร เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ เล่าว่า : ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัม ได้กล่าวว่า “อัลกุรอานคือผู้ช่วยเหลือและผู้ที่ได้รับอนุญาตให้ช่วยเหลือ และเป็นทนายที่เชื่อถือได้ ใครที่ให้อัลกุรอานอยู่เบื้องหน้าเขา อัลกุรอานย่อมนำทางเขาไปสู่สวรรค์ ส่วนใครที่ทิ้งอัลกุรอานไว้เบื้องหลัง อัลกุรอานก็จะดึงเขาไปสู่นรก”(บันทึกโดยอิบนุหิบบาน หะดีษเลขที่ 167, อัฏเฏาะบะรอนีย์ ใน “อัลกะบีร” หะดีษเลขที่ 8655, อัลบัยฮะกีย์ ใน “ชุอะบุลอีมาน” หะดีษเลขที่ 2010 และเชคอัลอัลบานีย์กล่าวว่าเป็นหะดีษที่เศาะฮีหฺ ใน “เศาะฮีหฺ อัลญามิอฺ” หะดีษเลขที่ 4443)

จากท่านอบูฮุร็อยเราะฮฺ เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ เล่าว่า : ท่านเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัม ได้กล่าวว่า “เมื่อลูกหลานอาดัมคนหนึ่งอ่านอายะฮฺอัสสัจดะฮฺแล้วสุญูด ชัยฏอนจะออกห่างแล้วร้องไห้ แล้วกล่าวว่า 'ความพินาศประสบแก่ข้าแล้ว (และอีกสายรายงานหนึ่งมันจะกล่าวว่า : ฉิบหายแล้วข้า) ลูกหลานอาดัมถูกสั่งให้สุญูด เขาก็สุญูด เขาจึงได้เข้าสวนสวรรค์ ส่วนข้านั้นถูกสั่งให้สุญูด ข้าไม่ยอมสุญูด ข้าจึงต้องลงนรก”(บันทึกโดยมุสลิม หะดีษเลขที่ 81)

จากท่านอุกบะฮฺ บินอามิร เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ เล่าว่า : ท่านเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัม ได้กล่าวว่า “ไม่มีใครคนใดในหมู่พวกท่านที่อาบน้ำละหมาดอย่างประณีตบรรจงจนกระทั่งเสร็จสิ้น จากนั้นเขากล่าวว่า ‘ฉันขอปฏิญาณว่า แท้จริงไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอัลลอฮฺ และนบีมุหัมหมัดเป็นบ่าวและเราะสูลของพระองค์’ เว้นแต่ประตูสวนสวรรค์ทั้ง 8 บานจะถูกเปิดให้แก่เขา และเขาจะเลือกเข้าจากประตูบานใดก็ได้ตามที่ต้องการ”(บันทึกโดยมุสลิม หะดีษเลขที่ 234)

จากท่านชัดด๊าด บินเอาสฺ เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ เล่าว่า : ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ได้กล่าวว่า “เจ้านาย (หรือแม่บท) ของการกล่าวขออภัยโทษ (อิสติฆฟาร) คือ 'โอ้อัลลอฮฺ พระองค์คือพระผู้อภิบาลของข้า ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากพระองค์ พระองค์ได้ทรงสร้างข้าและข้าคือบ่าวของพระองค์ ตัวข้ากับสัญญาแห่งผลตอบแทนที่ดีและสัญญาแห่งการลงโทษของพระองค์นั้น ข้าทำได้เท่าที่ข้ามีความสามารถเท่านั้น ข้าขอความคุ้มครองต่อพระองค์จากความชั่วร้ายที่ข้าได้กระทำไว้ ข้ากลับไปหาพระองค์ด้วยการยอมรับในความโปรดปรานของพระองค์ที่มีต่อตัวข้า และข้าขอกลับไปหาพระองค์ด้วยการยอมรับในความผิดบาปของข้า ดังนั้น ขอได้โปรดประทานอภัยแก่ข้าด้วยเถิด เพราะแท้จริงไม่มีผู้ใดสามารถประทานอภัยในบาปต่างๆ ได้นอกจากพระองค์'" ท่านกล่าวว่า "ใครที่อ่านดุอาอ์นี้ในยามเย็นด้วยความเชื่อมั่นที่แน่วแน่ต่อมัน แล้วเขาได้เสียชีวิตลงในค่ำคืนนั้น เขาจะเป็นหนึ่งในหมู่ชาวสวรรค์ และใครที่อ่านมันในยามเช้าด้วยความเชื่อมั่นที่แน่วแน่ต่อมัน แล้วเขาได้เสียชีวิตลงในวันนั้น เขาจะเป็นหนึ่งในหมู่ชาวสวรรค์เช่นกัน”(บันทึกโดยอัลบุคอรีย์ หะดีษเลขที่ 6306)

จากท่านอับดุลลอฮฺ บินอัมรู เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ เล่าว่า : ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัม ได้กล่าวว่า “ 2 สิ่งที่ไม่มีมุสลิมคนใดที่รักษา 2 สิ่งนี้ เว้นแต่เขาจะได้เข้าสวนสวรรค์ 2 สิ่งนี้เป็นเรื่องง่าย แต่มีคนที่ปฏิบัติน้อย (2 สิ่งนี้คือ) ในทุก ๆ หลังละหมาด 5 เวลาให้เขากล่าวตัสบีหฺ (สุบหานัลลอฮฺ) 10 ครั้ง แล้วกล่าวตะหฺมีด (อัลฮัมดุลิลลาฮฺ) 10 ครั้ง แล้วตักบีรฺ (อัลลอฮุอักบัร) อีก 10 ครั้ง ซึ่งจะรวมเป็น 150 คำที่ออกมาจากลิ้น และ 1,500 ความดีบนตราชั่ง (ในวันกิยามะฮฺ) และให้กล่าวตักบีรฺ 34 ครั้งเมื่อจะเข้ารนอน แล้วกล่าวตะหฺมีด 33 ครั้ง แล้วกล่าวตัสบีหฺ 33 ครั้ง ซึ่งรวมเป็น 100 คำที่ออกมาจากลิ้น และ 1,000 ความดีเมื่อบนตราชั่งในวันกิยามะฮฺ”ท่านอับดุลลอฮฺเล่าอีกว่า : ฉันได้เห็นท่านเราะสูลุลลอฮฺนับด้วยมือขวาของท่าน บรรดาเศาะหาบะฮฺได้กล่าวว่า “ท่านเราะสูลุลลอฮฺครับ มันจะเป็นไปได้อย่างไรที่ 2 สิ่งนี้เป็นเรื่องง่าย แต่มีคนที่ปฏิบัติน้อย” ท่านนบีตอบว่า “ชัยฏอนจะมายังคน ๆ หนึ่งในหมู่พวกท่านในขณะที่เขาจะเข้านอน แล้วมันก็ทำให้เขาหลับไปก่อนที่จะได้กล่าวมัน และชัยฏอนจะมาหาเขาในละหมาด แล้วมันก็ทำให้เขานึกถึงความต้องการ (หรือภารกิจต่าง ๆ) ของเขาก่อนที่เขาจะได้กล่าวมัน”(บันทึกโดยอบูดาวูด หะดีษเลขที่ 5065, อันนะสาอีย์ หะดีษเลขที่ 1347, อัตติรมิซีย์ หะดีษเลขที่ 3410 ท่านกล่าวว่าเป็นหะดีษหะสันเศาะฮีหฺ และเชคอัลอัลบานีย์กล่าวว่าเป็นหะดีษเศาะฮีหฺ ใน “เศาะฮีหฺ อัลญามิอฺ” หะดีษเลขที่ 3230)