หะดีษเลขที่ 19
ชายที่ทำความผิด
حَدَّثَنَا مُؤَمَّلٌ قَالَ : حَدَّثَنَا حَمَّادٌ قَالَ : حَدَّثَنَا عَلِيُّ بْنُ زَيْدٍ عَنْ يُوسُفَ بْنِ مِهْرَانَ عَنِ ابْنِ عَبَّاسٍ :أَنَّ امْرَأَةً مُغِيبًا أَتَتْ رَجُلًا تَشْتَرِي مِنْهُ شَيْئًا، فَقَالَ : ادْخُلِي الدَّوْلَجَ حَتَّى أُعْطِيَكِ، فَدَخَلَتْ فَقَبَّلَهَا وَغَمَزَهَا، فَقَالَتْ : وَيْحَكَ إِنِّي مُغِيبٌ، فَتَرَكَهَا وَنَدِمَ عَلَى مَا كَانَ مِنْهُ، فَأَتَى عُمَرَ فَأَخْبَرَهُ بِالَّذِي صَنَعَ فَقَالَ : وَيْحَكَ فَلَعَلَّهَا مُغِيبٌ، قَالَ : فَإِنَّهَا مُغِيبٌ، قَالَ : فَأْتِ أَبَا بَكْرٍ فَاسْأَلْهُ، فَأَتَى أَبَا بَكْرٍ فَأَخْبَرَهُ، فَقَالَ أَبُو بَكْرٍ : وَيْحَكَ لَعَلَّهَا مُغِيبٌ، قَالَ : فَإِنَّهَا مُغِيبٌ، قَالَ : فَأْتِ النَّبِيَّ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ فَأَخْبِرْهُ،فَأَتَى النَّبِيَّ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ فَأَخْبَرَهُ، فَقَالَ النَّبِيُّ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ { لَعَلَّهَا مُغِيبٌ } قَالَ : فَإِنَّهَا مُغِيبٌ، فَسَكَتَ رَسُولُ اللَّهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ وَنَزَلَ الْقُرْآنُ { وَأَقِمْ الصَّلَاةَ طَرَفَيْ النَّهَارِ وَزُلَفًا مِنْ اللَّيْلِ... } إِلَى قَوْلِهِ { ...لِلذَّاكِرِينَ } قَالَ : فَقَالَ الرَّجُلُ : يَا رَسُولَ اللَّهِ أَهِيَ فِيَّ خَاصَّةً أَوْ فِي النَّاسِ عَامَّةً؟، قَالَ : فَقَالَ عُمَرُ : لَا وَلَا نَعْمَةَ عَيْنٍ لَكَ بَلْ هِيَ لِلنَّاسِ عَامَّةً، قَالَ : فَضَحِكَ النَّبِيُّ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ وَقَالَ { صَدَقَ عُمَرُ } رَضِيَ اللَّهُ عَنْهُ
มุอัมมัลได้รายงานแก่พวกเราโดยกล่าวว่า : ฮัมมาดได้รายงานแก่พวกเราโดยกล่าวว่า : อลี บินซัยดฺ ได้รายงานแก่พวกเรา จากยูสุฟ บินมิฮฺรอน จากท่านอิบนุอับบาส ว่า :ผู้หญิงคนหนึ่งที่ถูกสามีของเธอทิ้งไป (เพราะหย่าร้างหรือเสียชีวิต) ได้มาหาผู้ชายคนหนึ่งเพื่อซื้อของบางอย่างจากเขา ชายคนนี้กล่าวว่า “เข้ามาในบ้านสิ ฉันจะได้เอาของให้” เมื่อผู้หญิงคนนี้เข้าไป เขาก็จูบและสัมผัสตัวเธอ ผู้หญิงจึงพูดว่า “ไปตายเสียเถอะ ฉันแต่งงานแล้วนะ” แล้วชายคนนั้นก็จากเธอไป เขาเสียใจกับสิ่งที่ทำลงไป เขาได้ไปหาท่านอุมัรและเล่าให้ท่านฟังว่าเขาทำอะไรมา ท่านอุมัรจึงกล่าวว่า “ให้ตายสิเจ้า เธออาจจะแต่งงานแล้วก็ได้นะ” เขาบอกว่า “เธอแต่งงานแล้วครับ” ท่านอุมัรจึงกล่าวว่า “ไปหาอบูบักรฺและปรึกษาเขาเถิด” ชายคนนี้จึงไปหาท่านอบูบักรฺและเล่าเรื่องที่เขาทำให้ท่านฟัง ท่านอบูบักรฺก็กล่าวว่า “ให้ตายสิเจ้า เธออาจจะแต่งงานแล้วก็ได้นะ” เขาก็บอกว่า “เธอแต่งงานแล้วครับ” ท่านอบูบักรฺจึงกล่าวว่า “ไปหาท่านนบี ขอพรและความศานติจงมีแด่ท่าน และเล่าให้ท่านทราบเถิด”เขาจึงไปหาท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัม และเล่าให้ท่านฟัง ท่านนบีก็ได้กล่าวว่า “เธออาจจะแต่งงานแล้วก็ได้นะ” เขาก็บอกว่า “เธอแต่งงานแล้วครับ” ท่านเราะสูลุลลอฮฺนิ่งเงียบ แล้วอายะฮฺอัลกุรอานก็ลงมาว่า
وَأَقِمِ الصَّلَاةَ طَرَفَيِ النَّهَارِ وَزُلَفًا مِّنَ اللَّيْلِ إِنَّ الْحَسَنَاتِ يُذْهِبْنَ السَّيِّئَاتِ ذَٰلِكَ ذِكْرَىٰ لِلذَّاكِرِينَ
และเจ้าจงดำรงไว้ซึ่งการละหมาดที่ปลายช่วงเวลาทั้งสองของกลางวัน (คือ เช้าและเย็น) และในช่วงต้นของกลางคืน แท้จริงความดีทั้งหลายย่อมสามารถลบล้างความชั่วต่าง ๆ ได้ นั่นคือข้อเตือนแก่บรรดาผู้ที่รำลึก (ฮูด 11 : 114)ท่านอิบนุอับบาสเล่าต่อว่า : แล้วชายคนนั้นก็กล่าวว่า “ท่านเราะสูลุลลอฮฺครับ อายะฮฺนี้ถูกประทานลงมาในเรื่องของผมโดยเฉพาะ หรือให้กับผู้คนโดยรวมครับ?” ท่านอิบนุอับบาสบอกว่า : ท่านอุมัรได้กล่าวว่า “ไม่! ไม่ใช่สำหรับเจ้าคนเดียวแน่ ๆ แต่สำหรับผู้คนทั้งหมด” ท่านอิบนุอับบาสกล่าวว่า : ท่านนบีก็หัวเราะ ขอพรและความศานติจงมีแด่ท่าน และท่านยังกล่าวอีกว่า “อุมัรพูดถูกแล้ว” ขออัลลอฮฺพอพระทัยท่านอุมัร(บันทึกโดยอะหมัด หะดีษเลขที่ 2430, หะดีษเศาะฮีหฺ ลิฆ็อยริฮี)
สถานะหะดีษ : เศาะฮีหฺ