รายงานจากท่านอุมัร อิบนิ อัลค็อฏฏ็อบ เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ เล่าว่า : ฉันได้ยินท่านเราะสูลัลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัม ได้กล่าวว่า : “แท้จริงการงานต่าง ๆ นั้นขึ้นอยู่กับการตั้งเจตนาเท่านั้น และแท้จริงแล้วทุกคนจะได้รับ ตามที่เขาตั้งเจตนาไว้ ดังนั้นผู้ใดที่การอพยพของเขาเป็นไปเพื่ออัลลอฮ์และเราะสูลของพระองค์ ดังนั้น การอพยพของเขาก็เป็นไปเพื่ออัลลอฮ์และเราะสูลของพระองค์ และผู้ใดที่การอพยพของเขาเป็นไปเพื่อ (ผลประโยชน์) ทางโลก (ดุนยา) ที่จะได้รับ หรือเพื่อสตรีนางหนึ่งที่เขาจะแต่งงานด้วย ฉะนั้น การอพยพของเขาก็เป็นไปตาม (เจตนา) ที่เขาอพยพไปนั่นเอง”(บันทึกโดยอัลบุคอรีย์ ฮะดีษเลขที่ 6689 และมุสลิม ฮะดีษเลขที่ 1907)

รายงานจากท่านหญิงอาอิชะฮ์ เราะฎิยัลลอฮุอันฮา เล่าว่า : แท้จริงอัสมาอ์ (บินติ ชะกัล) ได้ถามท่านนะบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม เกี่ยวกับการอาบน้ำชำระล้างจากประจำเดือน ดังนั้นท่านนะบี ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัม กล่าวตอบว่า : "คนหนึ่งคนใดในหมู่พวกเธอให้เอาน้ำและใบพุทรา จากนั้นก็จงอาบน้ำชำระล้างโดยทำการชำระล้างให้ดี แล้วให้รดน้ำลงบนศีรษะของนางพร้อมกับขยี้ผมให้แรงจนถึงรากผม จากนั้นราดน้ำให้ทั่วศีรษะ แล้วให้เอาผ้าชิ้นหนึ่งที่มีกลิ่นหอมแล้วใช้มันในการทำความสะอาด" อัสมาอ์ได้ถามขึ้นว่า : “ใช้ผ้าชิ้นนั้นทำความสะอาดอย่างไรคะ ?” ท่านนะบี ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัม กล่าวตอบว่า : "สุบฮานัลลอฮ์ เธอจงทำความสะอาดด้วยกับผ้าชิ้นนั้น" ท่านหญิงอาอิชะฮ์ ร่อฎิยัลลอฮุอันฮา ได้เล่าว่า : “ดูเหมือนว่าจะพยายามปกปิดสิ่งนั้น” (ท่านหญิงจึงกล่าวว่า) : “เธอจงเช็ดรอยเลือดด้วยผ้าชิ้นนั้น”และอัสมาอ์ได้ถามเกี่ยวกับการอาบน้ำญะนาบะฮ์ แล้วท่านนะบี ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัม ได้ตอบว่า : "ให้เอาน้ำ แล้วก็จงอาบน้ำชำระล้างโดยทำการชำระล้างให้ดี หรือให้ถึงจุดที่ต้องทำความสะอาด แล้วให้รดน้ำลงบนศีรษะ และขยี้ให้ถึงรากผม จากนั้นราดน้ำให้ทั่วศีรษะ" แล้วท่านหญิงอาอิชะฮ์ ร่อฎิยัลลอฮุอันฮา ได้กล่าวว่า : “สตรีที่ดีที่สุด คือสตรีของชาวอันศ็อร เพราะความอายไม่สามารถยับยั้งพวกนางจากการแสวงหาความรู้ในเรื่องศาสนาได้”(บันทึกโดยอัลบุคอรีย์ ฮะดีษเลขที่ 314 และมุสลิม ฮะดีษเลขที่ 332 และสำนวนเป็นของมุสลิม)

รายงานจากท่านหญิงอุมมิ สะละมะฮ์ เราะฎิยัลลอฮุอันฮา เล่าว่า : อุมมุ สุลัยม์ เราะฎิยัลลอฮุอันฮา ได้มาหาท่านเราะสูลิลลาฮ์ ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัม แล้วนางได้กล่าวว่า : "โอ้ท่านเราะสูลของอัลลอฮ์ แท้จริงพระองค์อัลลอฮ์มิทรงละอายต่อความจริง แล้วผู้หญิงจำเป็นที่จะต้องอาบน้ำ (ญะนาบะฮ์) หรือไม่ เมื่อนางเกิดฝันเปียก?" ท่านนะบี ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัม ได้กล่าวตอบว่า : "ใช่ ถ้านางเห็น (ร่องรอย) น้ำ" แล้วท่านหญิงอุมมุ สะละมะฮ์ ร่อฎิยัลลอฮุอันฮา ก็ปกปิดไว้ (หมายถึงปิดใบหน้าของนาง) และนางกล่าวถามว่า : "โอ้ท่านเราะสูลของอัลลอฮ์ ผู้หญิงมีการฝันเปียกด้วยหรือคะ?!" ท่านนะบี ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัม กล่าวตอบว่า : "ใช่ มือขวาของเธอได้เปื้อนดินเสียแล้ว แล้วลูกของนางจะเหมือนกับนางด้วยสิ่งใดกัน"(บันทึกโดยอัลบุคอรีย์ ฮะดีษเลขที่ 130 และมุสลิม ฮะดีษเลขที่ 313)

รายงานจากท่านอุบัยด์ อิบนิ อุมัยร์ เล่าว่า : ได้มีข่าวมายังท่านหญิงอาอิชะฮ์ เราะฎิยัลลอฮุอันฮา ว่า : แท้จริงท่านอับดัลลอฮ์ อิบนิ อัมริน เราะฎิยัลลอฮุอันฮุมา ได้แนะนำให้บรรดาสตรีแก้ที่มัดผมออก เมื่อจะทำการอาบน้ำ (ยกฮะดัษ) ดังนั้น ท่านหญิงอาอิชะฮ์ เราะฎิยัลลอฮุอันฮา จึงกล่าวว่า : “ช่างน่าแปลกใจจริง ๆ สำหรับคำแนะนำนี้ของอิบนิ อัมริน ที่ให้บรรดาสตรีแกะที่มัดผมของพวกนางออก เมื่อจะทำการอาบน้ำ (ยกฮะดัษ) ! แล้วทำไมไม่แนะนำให้พวกนางโกนศรีษะเสียเลยล่ะ!? ซึ่งแท้จริงฉันเองเคยอาบน้ำพร้อมกับท่านเราะสูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัม จากภาชนะเดียวกัน และฉันไม่เคยทำเกินกว่าแค่รดน้ำลงบนศรีษะของฉันสามครั้งเท่านั้น”(บันทึกโดยอัลบุคอรีย์ ฮะดีษเลขที่ 250 และมุสลิม ฮะดีษเลขที่ 330 และนี่เป็นสะนวนของมุสลิม)

รายงานจากท่านหญิงอุมมิ สะละมะฮ์ เราะฎิยัลลอฮุอันฮา เล่าว่า : ฉันเคยถามว่า : “โอ้ท่านเราะสูลของอัลลอฮ์ แท้จริงฉันเป็นหญิงที่ถักผมแน่น แล้วฉันต้องแกะมันออกหรือไม่ เพื่อจะทำการอาบน้ำชำระจากญะนาบะฮ์?” ท่านเราะสูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัม ได้กล่าวตอบว่า : "ไม่ต้อง เธอเพียงแค่ตักน้ำรดบนศรีษะสามครั้ง หลังจากนั้นก็ราดน้ำบนร่างกายของเธอจนทั่ว แล้วเธอก็จะสะอาด" และในอีกสายรายงานหนึ่งด้วยสำนวนว่า : “แล้วฉันต้องแกะมันออกหรือไม่ เพื่อจะทำการอาบน้ำชำระจากประจำเดือนและญะนาบะฮ์?”(บันทึกโดยมุสลิม ฮะดีษเลขที่ 330)

รายงานจากท่านฮิชาม อิบนิ อุรวะฮ์ จากบิดาของท่าน จากท่านหญิงอาอิชะฮ์ เราะฎิยัลลอฮุอันฮา เล่าว่า : ฟาฏิมะฮ์ บุตรี อบี ฮุบัยช์ ได้มาหาท่านนะบี ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัม แล้วกล่าวถามว่า : “โอ้ท่านร่อสูลของอัลลอฮ์ แท้จริงฉันเป็นหญิงที่มีเลือดอิสติฮาเฎาะฮ์ ฉันจึงไม่สะอาด แล้วฉันต้องละเว้นจากการละหมาดหรือไม่คะ?” ท่านเราะสูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัม กล่าวตอบว่า : "ไม่ต้อง แท้จริงเลือดนั้นมาจากเส้นเลือด มิใช่เลือดประจำเดือน ดังนั้น เมื่อประจำเดือนของเธอมา ก็จงละเว้นการละหมาด และเมื่อประจำเดือนหมดไป ก็จงชำระล้างเลือดออกจากตัวเธอแล้วทำการละหมาด" และท่านฮิชาม เล่าต่อว่า : บิดาของฉัน กล่าวว่า : “แล้วเธอจงอาบน้ำละหมาดสำหรับการละหมาดทุกครั้ง จนกว่าจะถึงเวลาดังกล่าว (คือเวลาปกติที่เธอเคยมีประจำเดือน)”(บันทึกโดยอัลบุคอรีย์ ฮะดีษเลขที่ 228 และมุสลิม ฮะดีษเลขที่ 333)

รายงานจากท่านอับดิลลาฮ์ อิบนิ อุมัร เราะฎิยัลลอฮุอันฮุมา เล่าว่า : ชายคนหนึ่งลุกขึ้นยืน แล้วถามว่า : “โอ้ท่านเราะสูลของอัลลอฮ์ ท่านจะสั่งใช้ให้พวกเราใส่ชุดอย่างไรในขณะครองอิฮ์รอม?" ท่านนะบี ศ็อลลัลลอฮุ อะลัย ฮิวะสัลลัม กล่าวตอบว่า : "พวกท่านจงอย่าใส่อัลเกาะมี๊ส (ชุดโต้ป) กางเกง ผ้าสัรบั่น และเสื้อคลุม (ที่มีฮู้ด) เว้นแต่ถ้าเขาไม่มีรองเท้าแตะ ก็จงใส่รองเท้าคุฟ (รองเท้าหุ้มส้น) และตัดมันให้ต่ำกว่าตาตุ่ม และพวกท่านอย่าสวมผ้าที่ย้อมด้วยซะอ์ฟะรอน (คือพืชที่มีกลิ่นหอม ใช้เป็นน้ำหอมและย้อมผ้า) และวัรส์ (คือพืชสีเหลือง ที่มีกลิ่นหอม ใช้ย้อมผ้า) และสตรีที่ครองอิฮ์รอมต้องไม่ปิดหน้าและไม่สวมถุงมือ"(บันทึกโดยอัลบุคอรีย์ ฮะดีษเลขที่ 1838)

รายงานจากท่านอบี ฮุร็อยเราะฮ์ เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ เล่าว่า : ท่านเราะสูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัม ได้กล่าวว่า : “บุคคล 2 จำพวกจากชาวนรกที่ฉันไม่เคยเห็นมาก่อน (คือ) : กลุ่มคนที่มีแส้คล้ายกับหางวัว ซึ่งพวกเขาใช้มันเฆี่ยนตีผู้คน และบรรดาสตรีที่แต่งกายแต่เหมือนยังเปลือยกายอยู่ ยั่วยวนและเอียงไปเอียงมาขณะเดิน ศีรษะของพวกนางเหมือนโหนกอูฐที่โค้งงอ พวกนางเหล่านั้นจะไม่ได้เข้าสวรรค์ และจะไม่ได้กลิ่นอายของมัน ทั้งที่แท้จริงกลิ่นอายของมันมีระยะทางเท่านั้นเท่านี้"(บันทึกโดยอิมามอะฮ์มัด ฮะดีษเลขที่ 8665 และมุสลิม ฮะดีษเลขที่ 2128)

รายงานจากท่านอับดิลลาฮ์ อิบนิ อัมร์ เราะฎิยัลลอฮุอันฮุมา เล่าว่า : ฉันเคยได้ยินท่านเราะสูลัลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัม กล่าวว่า : "จะมีขึ้นในยุคสุดท้ายของประชาชาติของฉัน ที่บรรดาบุรุษจะขี่บนอานที่เหมือนกับอานของอูฐ พวกเขาจะหยุดอยู่ที่ประตูมัสยิด และบรรดาภรรยาของพวกเขาจะแต่งกายด้วยเสื้อผ้าที่เหมือนเปลือยกาย ในขณะที่บนศีรษะของพวกนางจะเป็นเหมือนโหนกของอูฐที่ผอมแห้ง ดังนั้น พวกท่านจงสาปแช่งพวกนาง เพราะแท้จริงพวกนางเป็นผู้ที่ถูกสาปแช่ง และหากมีประชาชาติใด ๆ มาหลังจากพวกท่าน แน่นอนว่าผู้หญิงของพวกท่านก็จะรับใช้ผู้หญิงของพวกเขา เหมือนดังที่ผู้หญิงของประชาชาติก่อนหน้าเคยรับใช้พวกท่าน"(บันทึกโดยอิมามอะฮ์มัด ฮะดีษเลขที่ 7083 และอัฎเฎาะบะรอนีย์ ในอัลเอาสัฏ ฮะดีษเลขที่ 9331 และอิบนุฮิบบาน ฮะดีษเลขที่ 5753 และอัลฮากิม ฮะดีษเลขที่ 8346 )

รายงานจากท่านหญิงอุมมิ สะละมะฮ์ เราะฎิยัลลอฮุอันฮา เล่าว่า : "เมื่อโองการถูกประทานลงมาว่า 'ให้พวกนางดึงเสื้อคลุมของพวกนางลงมาปิดตัวของพวกนาง' (อัลอะฮ์ซาบ 33 : 59) บรรดาสตรีชาวอันศ็อร์เวลาออกจากบ้าน ราวกับว่ามีอีกาเกาะอยู่บนศีรษะของพวกนาง เพราะผ้าคลุม (ศรีษะ) สีดำของพวกนาง"(บันทึกโดยอบู ดาวู๊ด ฮะดีษเลขที่ 4101)