รายงานจากท่านหญิงอาอิชะฮ์ เราะฎิยัลลอฮุอันฮา เล่าว่า "อัลลอฮ์ทรงเมตตาต่อบรรดาสตรีมุฮาญิรีนรุ่นแรก เพราะครั้นที่อัลลอฮ์ประทานโองการลงมาว่า : 'และให้เธอปิดด้วยผ้าคลุมศรีษะของเธอลงมาถึงหน้าอกของเธอ' [สูเราะฮ์ อันนู๊ร โองการที่ 31] พวกนางก็ฉีกผ้าคลุมส่วนที่เหลือแล้วนำมาปิดใบหน้าด้วยสิ่งนั้น"(บันทึกโดยอบูดาวู๊ด ฮะดีษเลขที่ 4102 และ 4103)

รายงานจากท่านหญิงอาอิชะฮ์ เราะฎิยัลลอฮุอันฮา เล่าว่า "ปรากฏว่าท่านเราะสูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัม เคยละหมาดศุบฮ์ แล้วมีบรรดาสตรีผู้ศรัทธามาร่วมละหมาดพร้อมกับท่าน โดยพวกนางคลุมตัวอยู่ในผ้าคลุม แล้วพวกนางก็กลับไปยังบ้านของพวกนาง โดยที่ไม่มีใครรู้เลยว่าเป็นใคร" และในบางรายงาน กล่าวว่า : "พวกนางห่มตัว"(บันทึกโดยอัลบุคอรีย์ ฮะดีษเลขที่ 372 และ 578 และมุสลิม ฮะดีษเลขที่ 645)

รายงานจากท่านอบี มูซา เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ จาก ท่านนะบี ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัม ได้กล่าวว่า : "ทุก ๆ ดวงตาล้วนเป็นการซินา (ได้รับส่วนของการซินา) และสตรีคนใดที่พรมน้ำหอมแล้วนางได้เดินผ่านที่ชุมนุมของผู้คน นางก็เหมือนกับเป็นอย่างนั้นอย่างนี้" หมายถึง ผู้ที่ผิดประเวณี(บันทึกโดยอัตติรมิซีย์ ฮะดีษเลขที่ 2786) และบันทึกโดยอบูดาวู๊ด ด้วยสำนวน : "เมื่อสตรีพรมน้ำหอมแล้วนางได้เดินผ่านคนกลุ่มหนึ่ง เพื่อให้พวกเขาได้กลิ่นของนาง นางก็เหมือนกับเป็นเช่นนั้นเช่นนี้" โดยที่ท่านได้กล่าวด้วยคำพูดที่รุนแรง(บันทึกโดยอบูดาวู๊ด ฮะดีษเลขที่ 4173)

รายงานจากท่านอบี ฮุร็อยเราะฮ์ เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ เล่าว่า : สตรีนางหนึ่งได้พบกับเขา แล้วเขาได้กลิ่นน้ำหอมจากตัวของนางพร้อมกับปลายชายผ้าที่สะบัดไปมาตามลม เขาจึงกล่าวว่า "โอ้ บ่าวของอัลญับบ๊าร (อัลลอฮ์) เธอมาจากมัสยิดใช่หรือไหม?" นางตอบว่า "ใช่คะ" เขาจึงถามอีกว่า "เธอพรมน้ำหอมเพื่อไปมัสยิดกระนั้นหรือ?" นางตอบว่า "ใช่คะ" เขาจึงกล่าวว่า : แท้จริงฉันเคยได้ยินผู้เป็นที่รักของฉัน (คือ ) อะบา อัลกอเส็ม (ชื่อเรียกของท่านนะบี) ได้กล่าวว่า : "การละหมาดจะไม่ถูกตอบรับ สำหรับสตรีที่พรมน้ำหอมเพื่อไปยังมัสยิด จนกว่านางจะกลับไปอาบน้ำชำระร่างกายเสมือนการอาบน้ำจากญะนาบะฮ์เสียก่อน"(บันทึกโดยอบูดาวู๊ด ฮะดีษเลขที่ 4174 และอิบนุ มาญะฮ์ ฮะดีษเลขที่ 4002)

รายงานจากท่านอบีอัลมะลีฮ์ อัลฮุซะลีย์ เล่าว่า : แท้จริงบรรดาสตรีจากชาวเมืองฮิมศ์ หรือชาวเมืองชาม ได้เข้าพบท่านหญิงอาอิชะฮ์ เราะฎิยัลลอฮุอันฮา ท่านหญิงจึงถามขึ้นว่า : พวกเธอใช่ไหมที่ให้บรรดาสตรีของพวกเธอเข้าห้องน้ำ (สาธารณะ)! แท้จริงฉันเคยได้ยินท่านเราะสูลัลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า : "ไม่มีสตรีนางใดที่เปลื้องผ้าของนางในที่ที่ไม่ใช่บ้านของสามี เว้นแต่นางได้ทำลายม่านระหว่างเขากับพระเจ้าไปแล้ว"(บันทึกโดยอิมามอะฮ์มัด ฮะดีษเลขที่ 24140 และอบูดาวู๊ด ฮะดีษเลขที่ 4010 และอัตติรมิซีย์ ฮะดีษเลขที่ 2803 และอิบนุมาญะฮ์ ฮะดีษเลขที่ 3750)

รายงานจากท่านเษาบาน เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ เล่าว่า : ท่านเราะสูลุลลอฮ์ ศ็อลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัม ได้กล่าวว่า : "สตรีท่านใดที่ขอหย่ากับสามีของนางโดยไม่มีเหตุอันควร ฉะนั้นกลิ่นอายของสวรรค์ก็เป็นที่ต้องห้ามสำหรับนาง" (บันทึกโดยอบูดาวู๊ด ฮะดีษเลขที่ 2226 และอัตติรมิซีย์ ฮะดีษเลขที่ 1187 และอิบนุมาญะฮ์ ฮะดีษเลขที่ 2055)

รายงานจากท่านอบีฮุร็อยเราะฮ์ เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ จากท่านนะบี ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัม กล่าวว่า : "ไม่อนุญาตสำหรับสตรีคนหนึ่ง ที่จะขอให้ (สามีของ) พี่น้องของนางหย่ากับเธอ เพื่อที่นางจะได้ครอบครองสิทธินั้น เพราะแท้จริงแล้วนางจะได้สิ่งที่ถูกกำหนดไว้สำหรับนางเท่านั้น"(บันทึกโดยอัลบุคอรีย์ ฮะดีษเลขที่ 5152 และมุสลิม ฮะดีษเลขที่ 1413)และรายงานโดยอิมามมาลิก ด้วยสำนวนว่า : "ไม่อนุญาตสำหรับสตรีคนหนึ่ง ที่จะขอให้ (สามีของ) พี่น้องของนางหย่ากับภรรยา เพื่อที่นางจะได้ครอบครองสิทธินั้น และเพื่อนางจะได้แต่งงาน (กับเขา) เพราะแท้จริงแล้วนางจะได้สิ่งที่ถูกกำหนดไว้สำหรับนางเท่านั้น"(บันทึกโดยอิมามมาลิก ในอัลมุวัฏเฏาะ ฮะดีษเลขที่ 3344)และในรายงานของอิบนิฮิบบาน ว่า : "ไม่อนุญาตสำหรับสตรีคนหนึ่ง ที่จะขอให้ (สามีของ) พี่น้องของนางหย่ากับเธอ เพื่อที่นางจะได้ครอบครองในสิทธินั้น เพราะแท้จริงสตรีมุสลิมคือพี่น้องของสตรีมุสลิม"(บันทึกโดยอิบนุฮิบบาน ฮะดีษเลขที่ 2102)

รายงานจากท่านหญิงอุมมิ สะฃะมะฮ์ เราะฎิยัลลอฮุอันฮา เล่าว่า : ท่านเราะสูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัม กล่าวว่า : "สตรีนางใดที่เสียชีวิตโดยที่สามีของนางพึงพอใจต่อนาง (แท้จริง) นางจะได้เข้าสวนสวรรค์" (บันทึกโดยอัตติรมิซีย์ ฮะดีษเลขที่ 1161 และอิบนุมาญะฮ์ ฮะดีษเลขที่1854)

รายงานจากท่านอบี ฮุร็อยเราะฮ์ เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ จากท่านนะบี ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัม : "สตรีคนหนึ่งจงอย่าถือศีลอดในขณะที่อยู่กับสามีของนาง เว้นแต่ด้วยการอนุญาตจากเขา" (บันทึกโดยอัลบุคอรีย์ ฮะดีษเลขที่ 5192 และมุสลิม ฮะดีษเลขที่ 1026)

รายงานจากท่านอบีฮุร็อยเราะฮ์ เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ เล่าว่า : ท่านเราะสูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัม กล่าวว่า : "เมื่อชายคนหนึ่งเรียกร้องภรรยาของเขาสู่ที่นอน แต่นางกลับปฏิเสธ แล้วเขา (สามี) ก็หลับโดยที่มีความไม่พอใจต่อนาง (ภรรยา) แน่นอนมะลาอิกะฮ์ (ทูตสวรรค์) จะสาปแช่งนางกระทั้งถึงตอนเช้า"และในอีกรายงานหนึ่งว่า : "ขอสาบานต่อผู้ที่วิญญาณของฉันอยู่ในพระหัตถ์ของพระองค์ ไม่มีชายใดที่ชวนเชิญภรรยาของเขาสู่ที่นอน แต่นางกลับปฏิเสธเขา เว้นแต่ผู้ที่อยู่เหนือฟากฟ้าจะกริ้วต่อนาง จนกว่าเขา (สามี) จะพึงพอใจต่อนาง" (บันทึกโดยอัลบุอครีย์ ฮะดีษเลขที่ 3237 และมุสลิม ฮะดีษเลขที่ 1436